คนซื้อทำใจบ้าน-คอนโดใหม่ขึ้นราคา5-10%
สงครามรัสเซีย –ยูเครน กดดันราคาน้ำมันดีดตัวสูงส่งผลต่อต้นทุนราคาวัตถุดิบ ผู้ประกอบการอสังหาฯอั้นไม่อยู่พาเหรดปรับราคาโครงการบ้าน-คอนโดใหม่5-10% คนซื้อทำใจเตรียมรับสภาพที่อยู่อาศัยราคาแพงขึ้น
สถานการณ์ราคาสินค้าในปัจจุบันเริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไม่หยุด และยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา จากผลพวงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับราคาที่ดินและวัตถุวัสดุสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯทยอยขึ้นราคาโครงการใหม่
"สุรวุฒิ สุขเจริญสิน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัดLPPบริษัทบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในเครือแอล.พี.เอ็น. กล่าวว่า จากต้นทุนค่าก่อสร้างกับที่ดินเพิ่มขึ้นนั้นส่งผลกระทบในภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนของโครงการที่อยู่ในแผนการส่งมอบที่เกิดจากโครงการที่ก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพราะยังเป็นราคาต้นทุนเดิม รวมทั้งส่วนที่เป็นสต็อกก็ยังคงเป็นต้นทุนเดิม ดังนั้นในปีนี้ผู้ประกอบการจึงยังไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก แต่ในส่วนของยอดขายใหม่อาจจะเป็นประเด็นว่า หลังจากที่ทำราคาใหม่ออกมาแล้วลูกค้ายอมรับได้มากน้อยแค่ไหน จะเห็นผลที่จะเกิดขึ้นในปี2566
"ที่ผ่านมาแอล.พี.เอ็น.ได้มีการปรับราคาสำหรับโครงการใหม่ขึ้นแล้ว 5-10% ซึ่งตัวแปรที่สำคัญคือราคาที่ดิน ที่มีผลต่อราคาของโครงการที่เปิดใหม่ และยังต้องเจอต้นทุนวัสดุที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าเป็นค่าเหล็ก ที่แพงขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการทำตลาดว่า ใครจะสามารถแบกรับภาระต้นทุนได้มากน้อยแค่ไหน หรือจะชาร์ทกับลูกค้าในรูปแบบไหน เพราะโครงการใหม่ทุกดีเวลลอเปอร์ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเหมือนกันหมด ซึ่งเป็นความผันผวนที่เกิดขึ้นมาจากสงคราม ยากต่อการคาดการณ์ ที่เข้ามาซ้ำเติมต่อจากโควิด "
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีแผนที่เบรค ชะลอโครงการใหม่ เพราะที่ผ่านมาสามารถระบายสต็อกได้พอสมควรจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดโครงการใหม่ เพราะสต็อกสินค้าลดลงไม่พอขายในบางโซนที่ขายดี เพื่อบาลานซ์พอร์ตในทุกโซนที่มีการเติบโตหลังจากที่อั้นมา2 ปีเหมือนกับผู้ประกอบการแทบทุกค่ายที่ชะลอเปิดโครงการ แม้ว่าบางคนซื้อที่ดินไว้แล้วหรือทำโครงการไว้แล้ว
"อาภา อรรถบูรณ์วงศ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันคอนโดสต็อกเก่าส่วนหนึ่งถูกระบายออกไปหมดแล้ว ส่วนที่กำลังขายใหม่ในปีนี้ จะมีทั้งสต็อกเก่าและใหม่ผสมกัน ราคาผสมกันแต่พอสต็อกเก่าหมดไปเรื่อยๆเป็นสต็อกใหม่ต้นทุน ใหม่ ราคาต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ฉะนั้นจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อราคาขายที่ต้องปรับเพิ่มขึ้น 5-10% ที่จะต้องปรับขึ้นแน่นอน หลังจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไม่หยุด และยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา จากผลพวงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับราคาที่ดินและวัตถุวัสดุสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าผู้ประกอบจะพยายามจัดการกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในยุคนี้ คงต้องยอมรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุม การลดค่าบริหารจัดการถือเป็นความพยายามที่คุมต้นทุนค่าใช้จ่ายภายในองค์กร แต่ยากที่จะมาทดแทนค่าที่ดินและวัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ต้องซื้อแพงและขายแพงขึ้น!!