SCGP มั่นใจไตรมาส2/65 โตแจ่มรับเปิดประเทศ-รุกปลูกกัญชง

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2565 คาดรายได้และกำไรเติบโตอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และยังโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปีนี้ ที่มีรายได้ 36,634 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และมีกำไรสุทธิ 1,658 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับปัจจัยหนุนการเติบโตไตรมาส 2 ปี 2565 จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในไทยและภูมิภาคอาเซียนทยอยฟื้นตัวดีขึ้น เพราะ รัฐบาลของแต่ละประเทศผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 และเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งไทยเตรียมเปิดประเทศ 1 พ.ค.นี้  ส่งผลให้การเดินทางการผลิตและการบริโภคเพิ่มขึ้น   

ขณะเดียวกันจะรับรู้รายได้จากการสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Merger and Partnership : M&P) ของ Duy Tan, Intan Group และ Deltala  ได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ บริษัทมีแผนบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและลงทุนระมัดระวัง

รวมถึงมีกลยุทธ์เพิ่มโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทำให้สาามารถปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจว่า จะช่วยลดผลกระทบจากราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบในช่วงที่เหลือของปีนีที่คาดว่ามีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อไป หากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังคงยืดเยื้อได้ 

นายวิชาญ กล่าวว่า สถานการณ์ล็อกดาวน์บางเมืองในจีนจากการแพร่ระบาดโควิด เป็นปัจจัยเสี่ยงยังต้องติตดาม  แต่เชื่อมั่นว่าที่ผ่านมารัฐบาลจีนปรับตัวได้เร็วและบริการจัดการที่ดี  คาดว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะกลับมาได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

สำหรับปีนี้ยังคงเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.4 แสนล้านบาท มุ่งเดินหน้า 3 กลยุทธ์ ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง 1.สร้างโมเดลธุรกิจให้แข็งแกร่ง ทั้ง B2B2C และ B2C นำเสนอโซลูชั่นตามความต้องการลูกค้า 2.มุ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในภูมิภาคเอเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ที่มีโอกาสเติบโตทั้งภายในและ M&P โดยเตรียมเงินลงทุน M&P ไว้แล้ว 5,000-10,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมปีนี้ 20,000 ล้านบาท 

 3.ขยายการโตและการพัฒนาธุรกิจปลายน้ำ เพื่อพัฒนาและเข้าถึงโอกาสตลาดสินค้ามูลค่าสูง สร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเชิงกว้างและเชิงลึก ล่าสุดได้เริ่มทดลองปลูกกัญชงในพื้นที่ อ.สังขบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 1 แปลง 200-250 ต้น อยู่ระหว่างการศึกษาขั้นต้น คาดเก็บดอกได้ภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้

โดยมีความตั้งใจการพัฒนาสร้างสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย และการพัฒนากัญชงต่อถึงธุรกิจขั้นกลางน้ำ และธุรกิจขั้นปลายน้ำ สำหรับการทำเชิงพาณิชย์พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือไม่นั้น กำลังศึกษาความเป็นไปได้