นายจ้าง ‘ช็อก’ ค่าจ้าง 492 บาท ทั่วประเทศ !

นายจ้าง ‘ช็อก’ ค่าจ้าง 492 บาท ทั่วประเทศ !

นายจ้างร้อง​ รับไม่ไหว​ ระบบพังแน่ หลังภาคแรงงานขอขึ้นค่าจ้าง​ 492 บาท​ ทั่วประเทศ​ ฟังจากปาก​ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย​ ธนิต โสรัตน์

นายจ้างรับไม่ไหว! รองประธานสภาองค์กรนายจ้าง เผยข้อเสนอขึ้นค่าแรง 492 บาท ทั่วประเทศ หากขึ้นพังทั้งระบบแน่  ระบุ เห็นใจแรงงานรับผลกระทบเงินเฟ้อ เสนอ 2 ทางเลือก ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม หรือขึ้นไม่เกินอัตราเงินเฟ้อ 5%

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (ECONTHAI) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มีข้อเสนอขอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 492 บาททั่วประเทศ โดยระบุว่า การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไตรภาคีที่จะพิจารณาร่วมกัน โดยต้องพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และความสามารถในการจ่ายค่าจ้างของนายจ้าง

สำหรับข้อเสนอดังกล่าว ยังไม่ชัดเจนว่าตัวเลข 492 บาท มีที่มาอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมา อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของไทยมีอยู่ 8 ระดับตามพื้นที่ ซึ่งหากยึดค่าจ้างขั้นต่ำใน กทม.ที่อัตรา 331 บาทต่อวัน มาคำนวณ จะเท่ากับ มีการปรับค่าจ้างขึ้นไปถึงวันละ 161 บาท หรือขึ้นถึง 48.6% ซึ่งเป็นอัตราที่นายจ้างรับไม่ไหว

 

นายธนิต กล่าวว่า เห็นใจแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่สาเหตุของเงินเฟ้อครั้งนี้มาจากเหตุ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่ได้มาจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น และผู้ประกอบการไม่สามารถสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังราคาสินค้าได้เหมือนภาวะเงินเฟ้อปกติ

“สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศขณะนี้ก็ยังไม่ค่อยดี ไม่ใช่เวลาที่จะปรับขึ้นค่าจ้าง ขณะเดียวกันยอมรับว่า มีความกังวลว่า เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ จะถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อสนองนโยบายประชานิยม จนมีการแทรกแซงไปยังคณะกรรมการไตรภาคี ให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อหวังผลทางการเมือง”

รองประธานสภาองค์กรนายจ้าง เสนอว่า หากรัฐบาลต้องการดูแลแรงงาน สามารถเลือกให้ความช่วยเหลือแรงงานเฉพาะกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ในระยะสั้น 3 เดือน หรือ หากจะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ก็ควรนำอัตราเงินเฟ้อมาประกอบการพิจารณา ซึ่งหลายสำนักประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะเคลื่อนไหวเฉลี่ยที่ 5% ก็ไม่ควรขึ้นค่าจ้างเกิน 5% จากอัตราในปัจจุบัน ซึ่งหากคำนวณโดยอัตราค่าจ้างใน กทม. ก็จะเท่ากับปรับขึ้นมาอีก วันละ 16.50 บาท หรือเดือนละไม่เกิน 500 บาท ก็น่าจะอยู่ในระดับที่ช่วยเหลือกันได้

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์