“โซลาร์ ดี-เทสลา" ลุยตลาดโซลาร์รูฟในไทยมอง 10 ปี มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน

“โซลาร์ ดี-เทสลา" ลุยตลาดโซลาร์รูฟในไทยมอง 10 ปี มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน

“โซลาร์ ดี” ผนึก “เทสลา” ชูนวัตกรรม “Tesla Powerwall” ระบบจัดเก็บและจัดการพลังงานสะอาดขนาด 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รายแรกในเอเชีย มีลูกค้าติดตั้งแล้วกว่า 50 หลัง คาดสัดส่วนรายได้ลูกค้าบ้าน 30% ในปีนี้ มองตลาดโซลาร์ไทยอีก 10 ปีมูลค่าพุ่งกว่า 5 หมื่นล้าน

นายสัมฤทธิ์ สิทธิวรานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน จำกัด กล่าวว่า โซลาร์ ดี ดำเนินธุรกิจบริการด้านระบบการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคาร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบระบบการผลิตพลังงานที่สะอาดในชีวิตประจำวันของทุกคน และเป้าหมายในการนำเสนอการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Energy) ให้ภาคครัวเรือนได้มีส่วนช่วยในการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน

ล่าสุด ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก “เทสลา” เป็นพันธมิตรในฐานะตัวแทนติดตั้งอย่างเป็นทางการเพียงหนึ่งเดียวในไทย ผ่านเทคโนโลยี “Tesla Powerwall” ครั้งแรกของเอเชีย ที่นำเสนอสมาร์ตโซลูชันพลังงานสะอาดเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ด้วยนวัตกรรมระบบจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าขนาด 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ใช้งานได้มากกว่าการสำรองพลังงาน สามารถควบคุมและจัดการพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง เพียงพอสำหรับการเปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 24,000 บีทียูได้นาน 10 ชั่วโมง และยาวต่อเนื่องไม่จำกัดหากใช้ร่วมกับระบบโซลาร์รูฟท็อป

“โซลาร์ ดี-เทสลา\" ลุยตลาดโซลาร์รูฟในไทยมอง 10 ปี มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน นอกจากนี้ ยังเพียงพอสำหรับการชาร์จรถยนต์อีวีในช่วงเวลากลางคืนให้วิ่งได้ถึง 90 กิโลเมตร อีกทั้งลูกค้าสามารถขยายเพิ่ม Powerwall ได้สูงสุดถึง 10 ยูนิตต่อ 1 ระบบ เพื่อรองรับการใช้งานของบ้านทุกขนาด รูปแบบมีความทนทาน กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ติดตั้งได้ทั้งภายในอาคารและนอกตัวอาคาร และจะวางกับพื้นหรือแขวนบนผนัง ในราคารวมค่าอุปกรณ์ Tesla Gateway ที่ 599,000 บาท

“ตลอดเวลากว่า 9 ปีที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโซลาร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เทรนด์พลังงานสะอาดได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ความนิยมในการใช้ระบบโซลาร์รูฟท็อปก็เพิ่มสูงขึ้น และด้วยราคาที่ลดลง มองว่ามูลค่าตลาดโซลาร์รูฟอีก 10 ปีจะมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท จากปัจจุบันหลักพันล้านบาท”

“โซลาร์ ดี-เทสลา\" ลุยตลาดโซลาร์รูฟในไทยมอง 10 ปี มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าที่ติดตั้งแล้วกว่า 50 หลังคา และอยู่ระหว่างหารือกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 3 ราย ตั้งเป้าอนาคตจะมีลูกค้าปีละหลักพันราย ซึ่งปีนี้นวัตกรรม Tesla Powerwall จะสร้างรายได้เป็น 30% จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ติดตั้งโซลาร์ให้กับกลุ่มโรงงานอยู่ในสัดส่วน 90% ที่มียอดติดตั้งแล้วกว่า 80 เมกะวัตต์ โดยเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ โต 80% จากปีที่ผ่านมามีปริมาณติดตั้งที่ 20 เมกะวัตต์

สำหรับ Tesla Powerwall เป็นสมาร์ทโซลูชันสำหรับการจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าจากเทสลา ให้ทุกบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งานได้เอง รองรับการผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้วิถีพลังงานสะอาด และลดการพึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าจากส่วนกลาง ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว ผ่านระบบ AC Couple แบบ All in single unit มาพร้อมกับเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าหรืออินเวอร์เตอร์ภายในตัว ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งร่วมกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าและรองรับการอัปเดตซอฟแวร์แบบไร้สายเพื่อใช้งานฟังก์ชันใหม่ๆ ในอนาคต