JMT เริงร่า |ออฟเรคคอร์ด

JMT เริงร่า  |ออฟเรคคอร์ด

สาละวันเตี้ยลงสำหรับดัชนีหุ้นไทย แต่หุ้น JMT ราคาหุ้นนิวไฮเป็นว่าเล่น ตามประสาธุรกิจตามหนี้เนื้อหอม - มีแต่นายแบงก์รุมตอม และยังมีสิทธิเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่อีก

๐๐๐ JMT เริงร่า 

หุ้นไทยช่วงนี้ค่อยๆ ซึมลงแบบนี้ “น่ากลัว” ว่าจะเจอแรง “ขายร่วงแรง” เพราะดูจากบรรดาหุ้นที่สลับกันขึ้นกันลงไปอยู่ที่หุ้นเล็ก - หุ้นกลาง กันหมด ส่วน หุ้นใหญ่ ที่เห็นขึ้นช่วงเช้าได้หน่อยเจอเทขายแรงช่วงบ่ายกันหมด 

ที่ค่อยขึ้นมาแบบต่อเนื่อง  พักเป็นบางช่วงแต่ไม่เสียทรง  JMT ทำเอานักลงทุนนอนไม่สะดุด และยังฝันหวานได้ต่อ หลังราคา หุ้นขยับขึ้น รับกำไรกันทุกไตรมาส จนดันขึ้นทำนิวไฮเป็นว่าเล่น ล่าสุดปิดไป 86 บาท !!

สอดรับกับ “ธุรกิจตามหนี้” ที่เป็นที่ต้องการของบรรดานายแบงก์จนต้องเข้ามาขอร่วมธุรกิจกันคึกคัก เพราะ หนี้เสีย ที่อยู่ในมือแบงก์ยังถูกกดลงต่ำแต่ถ้าปลดล็อกเมื่อไรต้องมีที่ให้ระบายเลยทำให้ธุรกิจ AMC แบบโจทย์ - แก้ปมได้ดีที่สุด 

 JMT ถูกจับจองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมเข้าดำเนินธุรกิจร่วมกันกับ KBANK  ยังได้แรงหนุนเข้าตา กองทุนหลังมีสิทธิเข้าคำนวณ “ดัชนี MSCI รอบใหม่ ” 12 พ.ค. นี้ เม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนต้องเตรียมช้อปกันตั้งแต่เนิ่นๆ 

ตามสเต็ป งบดี - กำไรโต - มีแต่คนอยากซื้อ ราคาหุ้นต้องมีอัพเกรดจากโบรกเกอร์กันใหม่ไปที่ ฐาน 100 บาทกันแล้ว !! 

๐๐๐

หุ้นไทยยังดิ่งต่อ! ตามตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางปัจจัยลบเดิมๆ ทั้งความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สถานการณ์โควิดในจีนที่ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น จนต้องมีการปิดพื้นที่ในหลายเมือง ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนดูตึงเครียดขึ้น หลังรมว.ต่างประเทศรัสเซีย ขู่ว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจยกระดับเป็นสงครามนิวเคลียร์

โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,661.89 จุด ลดลง 7.08 จุด หรือ 0.42% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,670.22 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,655.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,764.75 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 2,370.05 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 45.07 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,350.58 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขาย 3,765.71 ล้านบาท

๐๐๐

ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง รับข่าวจีนเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เลยทำให้หุ้นพลังงานต้นน้ำ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ยืนเขียวสดใสตลอดทั้งวัน ปิด 148 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.42%

๐๐๐

ส่วนบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) บวกสวนกระดานเช่นกัน ปิด 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 3.15% โดยระหว่างวันทำจุดสูงสุดที่ 33 บาท หลังค่าการกลั่นพุ่งแรงแตะ 19 ดอลลาร์/บาร์เรล เทียบกับวันก่อนที่ราวๆ 16 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนผลการดำเนินงานสดใสตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาคึกคัก

๐๐๐

ราคาหุ้น บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ร่วง 3.33% ปิดที่ 43.50 บาท รับข่าวรัสเซียประกาศหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้โปแลนด์และบัลแกเรีย เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศไม่ยอมจ่ายค่าก๊าซฯ ด้วยเงินรูเบิล กลายเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อ IVL ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศโปแลนด์ อาจประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ประกอบกับราคาก๊าซฯ ในยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนของบริษัท

๐๐๐

ขณะที่ บมจ.ซาบีน่า (SABINA) วิ่งแรง 4.35% มาปิดที่ 24 บาท ถือว่าเป็นอีกหุ้นที่น่าจับตามอง จากแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยบล.ทิสโก้ มองกำไรสุทธิปีนี้จะกลับสู่ระดับปกติก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งยังมีจุดเด่นที่เงินปันผล ซึ่งล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 0.85 บาท โดยจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.41 บาท และจะจ่ายอีก 0.44 บาท ในวันที่ 19 พ.ค. นี้

๐๐๐

ปิดท้ายที่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เคาะราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PO เบื้องต้นหุ้นละ 37.75 บาท อัตราส่วนการเสนอขายต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ โดยจะแจ้งราคาจองซื้อครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 31 พ.ค. และเปิดให้จองซื้อ 6-10 มิ.ย. นี้

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์