จุรินทร์”ถก JTC ไทย-ภูฏาน ดันขยายการค้าการลงทุนให้ได้ 120 ล้านดอลลาร์ในปี 68
“จุรินทร์”ประชุม JTC ไทย-ภูฏาน ขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ดันส่งออกสมุนไพรและยาแผนโบราณไทย ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 120 ล้านดอลลาร์ในปี 2568
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-ภูฏาน ว่า กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการค้าร่วมระหว่างไทยและภูฏานครั้งที่ 4 กับนาย Lyonpo Loknath Sharma รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจที่จ.ภูเก็ต ว่า การค้าระหว่างไทยกับภูฏานปี 2564 มีมูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท เป็นการส่งออกจากประเทศไทยไปภูฏานเกือบทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยได้ดุลการค้าเกินดุลกับภูฏานประมาณ 2,096 ล้านบาท เป็น 28.68%
สินค้าที่ไทยส่งออกไปภูฏานประกอบด้วยสิ่งทอ ผ้าผืนใหญ่สังเคราะห์เครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่ารวมกันประมาณ 70% ของการส่งออกทั้งหมด สินค้าอื่น เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลไม้สด ผลไม้แช่เย็น แช่แข็งและผลไม้แห้ง สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ประเทศภูฏานส่งออกมาไทยคือ ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น กาแฟ ชา เครื่องเทศ เยลลี่ผลไม้ และโลหะ ผลิตภัณฑ์จากโลหะซึ่งเป็นรูปหล่อขนาดเล็กทำด้วยทองแดง เป็นต้นโดยนักธุรกิจไทยไปลงทุนภาคบริการในภูฏานหลายราย ในกิจการโรงแรม ที่พัก สปาและร้านอาหาร
"การหารือครั้งนี้ทั้ง 2 ประเทศ ตกลงที่จะส่งเสริมการค้าทวิภาคีจากเดิมมีมูลค้าการค้าร่วมกัน 50 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มเป็น 120 ล้านดอลลาร์ในปี 2568 หรือประมาณ 3 เท่าเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประเทศไทยขอให้ภูฏานสนับสนุนการนำเข้าสมุนไพรไทยและยาแผนไทยเพื่อเพิ่มปริมาณการค้า"นายจุรินทร์ กล่าว
นอจากนี้ประเทศไทยและภูฏานมีความร่วมมือด้านหัตถกรรมและจะขยายความร่วมมือไปอีก 5 ปีข้างหน้า และจะเข้าร่วมแพคเกจการท่องเที่ยวที่มีจุดขายที่แข็งแกร่งของการส่งเสริมพลังนุ่มนวลท่ามกลางจุดแข็งของวัฒนธรรม ศิลปะ และหัตถกรรม นอจากนี้ไทยยังขอให้ภูฏานเร่งผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โควิด-19 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจไทยลงทุนในสปา โรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว
ขณะที่ภูฏานขอให้ประเทศไทยเร่งรัดขั้นตอนการผลิตสินค้าเกษตรของภูฏาน โดยเฉพาะ แอปเปิล ส้ม มันฝรั่ง ที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตรจะออกประกาศอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากภูฏานว่า จะมีผลใช้บังคับเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และขอให้ไทยดำเนินการข้อตกลงการค้าพิเศษที่คล้ายกับข้อตกลงการค้าเสรีแต่ไม่รวมบริการและเกี่ยวข้องกับการค้าสินค้า ภูฏานมี PTA เพียงประเทศเดียวคือบังคลาเทศ