บิตคอยน์ร่วงเคลื่อนไหวที่ 35,000 ดอลล์
บิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.48 น.ของวันนี้(7พ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 0.68% เคลื่อนไหวที่ 35,968.0 ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวในแดนลบของบิตคอยน์เป็นผลมาจากนักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) จะฉุดสภาพคล่องในตลาด
บิตคอยน์ร่วงลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนมิ.ย. แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่าเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงขนาดนั้นก็ตาม
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว
นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมมากกว่า 2.00% ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแตะระดับ 2.85% ในช่วงสิ้นปีนี้
เฟด มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนการทำ QT โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน
นักลงทุนยังกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย หลังจากที่หดตัว 1.4% ในไตรมาส 1/65
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า บิตคอยน์ร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ 37,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณช่วงขาลง และอาจลงไปทดสอบ 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากระดับดังกล่าวไม่สามารถรองรับได้ ก็จะทำให้บิตคอยน์ทรุดตัวลงต่อไปสู่ระดับ 25,000 ดอลลาร์