กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ผันผวน/แกว่งลง จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในวันพุธนี้
ในสัปดาห์ที่แล้ว (2–6 พฤษภาคม) หุ้นไทยขยับลงแบบ sideways down ซึ่งถือว่าอ่อนแอกว่าที่เราคาดไว้ โดยภาวะตลาดหุ้นโลกยังคงเป็นลบจากความกลัวเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐ และความกังวลว่า Fed จะคุมเงินเฟ้อไม่อยู่
ในขณะเดียวกัน แม้ว่าการประชุม FOMC เมื่อวันพุธที่แล้วมีการส่งสัญญาณว่า Fed จะไม่มีขึ้นดอกเบี้ย 75bps ในการประชุมรอบต่อ ๆ ไป แต่ตลาดการเงินกลับมาระมัดระวังอีกครั้งในวันพฤหัสบดีเมื่อต้นทุนแรงงานต่อหน่วยใน 1Q65 พุ่งสูงเกินคาด ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.0% สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้หุ้นการบริโภค และการท่องเที่ยวของไทย outperform อย่างไรก็ตาม มุมมองด้านบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยวถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยราคาน้ำมันในประเทศที่ขยับสูงขึ้นหลังจากที่รัฐบาลปล่อยให้ราคาขายปลีกในประเทศลอยตัวบางส่วนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565
สำหรับในสัปดาห์นี้ (9-13 พฤษภาคม) เราคิดว่าดัชนี SET น่าจะยังผันผวนต่อเนื่อง ในขณะที่นักลงทุน
ยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รวมถึงการเคลื่อนไหวของ Fed Fund Futures และอัตราผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ ในวันที่ 11 พฤษภาคม สหรัฐจะรายงานตัวเลข CPI เดือนเมษายน ซึ่ง
อาจจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานอาจจะ outperform
ดัชนีตลาดโดยรวมต่อเนื่องอีกในสัปดาห์นี้ ตามราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งในช่วงหลายวันมานี้จากการที่
EU เสนอให้แบนน้ำมันจากรัสเซียอย่างเต็มที่ในอีก 6 เดือนนับจากนี้ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ
สัปดาห์นี้จะเป็นช่วง peak ของการส่งงบ 1Q65 ของบริษัทที่นอกกลุ่มการเงิน เราคิดว่าในสัปดาห์หน้า
น่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับประมาณ EPS ของบริษัทจดทะเบียนไทย หลังจากที่
มีการประกาศผลประกอบการ 1Q65 ออกมาหมดแล้ว
จับตาตัวเลข CPI สหรัฐ และปาฐกถาของผู้บริหาร Fed
(0/+) CPI เดือนเมษายนของสหรัฐอาจจะชะลอตัวลงจากเดือนมีนาคม ในวันที่ 11 พฤษภาคม สหรัฐจะ
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายน โดย consensus คาดว่า headline CPI จะอยู่ที +8.1%
YoY และ core CPI จะอยู่ที่ +6.0% YoY ซึ่งหากตัวเลขทั้งสองเป็นไปตามคาด จะถือว่าชะลอลงจาก
เดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก ดังนั้น นัก
ลงทุนในตลาดจึงยังเตรียมพร้อมสำหรับการที่ Fed จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป
(0/-) ติดตามปาฐกถาของผู้บริหาร Fed เนื่องจากผ่านช่วง blackout ก่อนการประชุม FOMC ไปแล้ว
ดังนั้นจึงมีผู้บริหารระดับสูงของ Fed หลายรายที่มีกำหนดออกมาแสดงปาฐกถาทุกวันในสัปดาห์นี้
ยกเว้นวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ สำหรับปี 2565 มุมมองของกรรมการส่วนใหญ่ที่มีสิทธ์ิออกเสียงใน FOMC
ออกไปทาง ‘hawks’ ไม่ใช่ ‘dove’ และอาจจะออกมาพูดในลักษณะที่จะเอาจริงกับแรงกดดันด้านเงิน
เฟ้อ และการปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ระดับปกติ
ยังคงเน้นหุ้นธีมท่องเที่ยว เปิดประเทศ และหุ้นบางตัวในกลุ่มพลังงาน
เนื่องจากเรายังคงมองว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะผันผวนต่อโดยมี downside จำกัด ดังนั้น เราจึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นธีมเดิมต่อไปในเดือนพฤษภาคม 2565 ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศ และหุ้นบางตัวในกลุ่มพลังงาน (โรงกลั่น และถ่านหิน) ซึ่งตามธีมดังกล่าวเราชอบ AOT*, CPALL*, MAJOR*, SPRC*, ESSO* และ BANPU*