เฟรเซอร์สฯส่งสัญญาณบวก ลุยแนวราบ-คลังสินค้า-ออฟฟิศ

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่าปัจจุบันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัย “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ที่เน้นโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น เพื่อขยายเซ็กเมนต์ของกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกโครงการบ้านเดี่ยวเติบโตขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้ปรับกลยุทธ์การปิดการขายและโอนบ้านให้อยู่ในระยะเวลา 3 เดือน จึงทำให้สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุนการก่อสร้าง

นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าการพัฒนาการออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น จึงทำให้โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมได้รับการตอบรับที่ดีแม้ว่าการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในอัตราสูง  โดยแผนการเปิดโครงการ ในระหว่างเดือนเม.ย – ธ.ค. 2565 บริษัทมีแผนการเปิดโครงการบ้านเดี่ยว,บ้านแฝด, ทาวน์โฮม พื้นที่กทม.–ปริมณฑล และโครงการต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น 19 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท

ด้านธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล” และ กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล” ที่สร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทโดยในไตรมาสแรกโรงงานและคลังสินค้ายังมีอัตราการเช่ารวมสูงถึง85.4% และยังคงมีแนวโน้มความต้องการพื้นที่เช่า ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ของผู้เช่าที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ กลุ่มโลจิสติกส์  ยานยนต์ และ อิเล็กทรอนิกส์ 

ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากการชะลอการส่งออกจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้ภาวะราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จึงมีดีมานด์ระยะสั้นจากผู้เช่าเพิ่มเติมเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอมากขึ้น ซึ่งดีมานด์ระยะสั้นนี้คาดการณ์ว่าจะต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2565  บริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน เตรียมส่งมอบพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 150,000 ตารางเมตรภายในปีนี้

ขณะที่ธุรกิจอาคารสำนักงานยังสามารถรักษาระดับผู้เช่าไว้ได้กว่า 90 % เนื่องจากปรับกลยุทธ์การบริหารสัญญาเช่าอย่างยืดหยุ่น ร่วมกับการให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอคุณภาพสูงในย่านธุรกิจใจกลางเมือง

อย่าง “สามย่านมิตรทาวน์” มีผู้เช่าและผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นด้วยการปรับตัวของประชาชนที่คลายความกังวลมากขึ้น ในส่วนของ โครงการมิกซ์ยูสที่น่าจับตาแห่งใหม่ “สีลมเอจ”ยังคงคืบหน้าตามแผนแล้วกว่า 80%  คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนก.ย.นี้

ปัจจุบันมีผู้เช่าสำนักงานให้การตอบรับจองพื้นที่แล้วถึง 60% หรือ 6,000 ตารางเมตร และมีผู้เช่ารีเทลปิดดีลจองแล้วกว่า 30% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้

 โดยในภาพรวมของเดือนม.ค. – มี.ค.ทีผ่นมาบริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยสามารถสร้างรายได้รวมสุทธิ 3,414 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท สามารถรับรู้อัตรากำไรขั้นต้นในสัดส่วนที่สูงขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า