วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 พ.ค. 65)

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลง ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก หลังจากที่จีนยังคงขยายการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้และเมืองต่าง ๆ นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

+ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัสมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือน มิ.ย. โดยจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรลต่อวัน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐฯ และหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปคพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน

+ องค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เสนอให้ประเทศสมาชิกระงับการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนในช่วงที่ผ่านมา
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอินโดนีเซียมีปริมาณอุปสงค์เพิ่มขึ้น หลังจากมีการคลายล็อกดาวน์หลังช่วงเทศกาลรอมฎอน รวมถึงอุปสงค์จากไทยและกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการที่จะเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากจีนยังคงล็อกดาวน์อยู่ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลยังคงจำกัด อย่างไรก็ตาม อุปสงค์จากประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย