OR โชว์ไตรมาส 1 ปี 65 "กำไรสุทธิ" พุ่ง 63.3%
"โออาร์"เผยไตรมาส 1 ปี 65 กำไรสุทธิ 3,845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.3% มุ่งเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคและตอบรับเทรนด์ในอนาคต ประกาศลงทุนใน Start-up ผนึกกำลังสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ และร่วมสร้างโอกาสในการเติบโตไปด้วยกัน
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,491 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 63.3% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.32 บาท สูงกว่าไตรมาสก่อน 0.12 บาท หรือเพิ่มขึ้น 60.0%
โดยบริษัทในกลุ่มมีรายได้จากการขายและบริการ 177,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,452 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ขายของทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้น สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 6,467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,049 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเพิ่มในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจตลาดพาณิชย์และธุรกิจขายปลีกน้ำมัน ในขณะที่กำไรขั้นต้นของการขายน้ำมันดีเซลผ่านสถานีบริการชะลอตัวจากการลดภาระภาคประชาชนในการชะลอการปรับราคาหน้าสถานีบริการ
ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้ OR ได้เตรียมขยายการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station PluZ ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะพรอมานาด และเทอร์มินอล21 สาขาอโศก พระราม 3 พัทยา และโคราช รวม 24 จุดจ่าย ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานได้ในไตรมาส 3 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถไฟฟ้าสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Statoin PluZ ได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นิยมมาใช้บริการที่ห้างสรรพสินค้าและให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด และได้รวมกับไปรษณีย์ไทยและมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการศึกษาการใช้รถไฟฟ้าในการขนส่งไปรษณีย์และพัสดุ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และเป็นอีกก้าวสู่การเป็นผู้นำในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ต่อไปในอนาคต
สำหรับในด้าน Lifestyle OR ได้เปิดตัวร้านค้า “Your Space” หรือร้านค้ามัลติแบรนด์ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของร้านค้าออนไลน์เช่าพื้นที่เพื่อจัดแสดงสินค้าให้ผู้ซื้อได้สัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างยอดขาย ตอบโจทย์การขายสินค้าออนไลน์ยุคใหม่ ตอบโจทย์ผู้ขายเรื่องความคุ้มค่าเช่า ช่วยลดต้นทุนเจ้าของสินค้าไม่ต้องสต๊อคสินค้าที่ร้าน ปัจจุบัน OR ยังได้ลงทุนในสตาร์ทอัพ 6 รายผ่าน ORZON Ventures ได้แก่ Pomelo GoWabi Freshket Carsome Protomate และ Hangry เพื่อสร้าง New S-Curve ต่อยอดการดำเนินธุรกิจด้าน Mobility และ Lifestyle รวมทั้งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ และความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค
“การดำเนินการเหล่านี้สอดคล้องกับพันธกิจของ OR ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) และการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles) รวมทั้งยังมุ่งเติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร (Inclusive Growth) ด้วยการเสาะแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือ ทั้งในรูปแบบของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และการลงทุนใน SMEs หรือสตาร์ทอัพอีกด้วย” นายพิจินต์ กล่าว