เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าตลาดคาด (12 พฤษภาคม 2565)

เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าตลาดคาด (12 พฤษภาคม 2565)

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ดัชนีปรับตัวลงราว -9 จุด แรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และธนาคาร ส่วนแรงซื้อมีเข้ามาในหุ้นที่ประกาศงบออกมาดีกว่าตลาดคาด โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปรับตัวขึ้น และปรับตัวลง

นักลงทุนติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนเม.ย. ที่จะรายงานในวันที่ 11 พ.ค. โดยตลาดคาด +8.1%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +8.5% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,613.34 จุด -9.44 จุด -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 71,693 ลบ.ต่างชาติ -2,928.07 ลบ. TFEX -3,811 สัญญา ตราสารหนี้ +6,144.66 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ +6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าการขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปโดยผ่านทางยูเครนมีปริมาณลดลง เนื่องจากยูเครนปิดเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่ง ทำให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น
+ รัฐบาลสหรัฐจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าผู้บริโภคในสหรัฐ
+ นิวซีแลนด์จ่อเปิดประเทศเร็วกว่ากำหนด เล็งฟื้นเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19
+ สธ.วางนโยบายรับมือโควิดสู่โรคประจ้าถิ่น ชู Smart อสม.ยกระดับงานแบบเรียลไทม์
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,019 ราย มีผู้เสียชีวิต 59 ราย รักษาหาย 8,807 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 326.63 จุด -1.02% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาดทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3%YoY ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524
 

 

- มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นในเอเชียและกลุ่มตลาดเกิดใหม่กำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของภาวะตลาดหมี (Bear Market) อย่างไรก็ดี คาดว่าผลประกอบการและมูลค่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียนยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเรียกว่าเป็นการพลิกฟื้น
- กกร.คงคาดการณ์ GDP ปีนี้โต 2.5-4% คาดเงินเฟ้อมีโอกาสพุ่งถึง 5.5% ห่วงปัจจัยเสี่ยงกดดันช่วงที่เหลือของปีนี้ เสนอ 9 มาตรการดูแลเศรษฐกิจและประชาชน เสนอลดภาษีน้ำมันตรึงดีเซล 35 บาท/ลิตร 3 เดือน เร่งคนละครึ่งเฟส 5 ปรับค่าจ้างตามความเหมาะสมพื้นที่
- ทีดีอาร์ไอ สภาพัฒน์ กฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ คัดค้านแก้ พ.ร.บ.ประกันสังคมที่ให้นำเงินสะสมกรณีชราภาพออกมาใช้ ชี้ผิดหลักการประกันสังคม เสี่ยงเงินออมตอนสูงอายุลดลง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด โดยคาดว่ากลุ่มพลังงานจะสามารถพยุงตลาดได้บางส่วน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นแรง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,620 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• ศบค.ยกเลิกตรวจ RT-PCR มีผล 1 พ.ค. นี้ : AOT ERW CENTEL MINT AWC • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHI TACC
• ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัว+เงินบาทอ่อนค่า TWPC ASIAN XO SNC PIMO

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                       CPN  (ซื้อเมื่ออ่อนตัว - Bloomberg Consensus 66.25 บาท)
                                             : กำไรสุทธิ 1Q65 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าตลาดคาด (12 พฤษภาคม 2565)

 

•1Q65 มีรายได้รวม 8,208 ล้านบาท +23%YoY ทรงตัว QoQ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจให้เช่าที่มี่สาขาศรีราชาและอยุธยาเปิดบริการเต็มไตรมาส เซ็นทรัล วิลเลจ เฟส 2 เปิดบริการ สาขาพระราม 2 เปิดบริการ และส่วนแบ่งกำไรจาก SF รวมทั้งการให้ส่วนลดค่าเช่าลดเหลือ 16% อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเป็น 49% จาก 45% ใน 1Q65 และ 4Q64 จากธุรกิจโรงแรมที่มีอัตราเข้าพักดีขึ้นสู่ 49% จาก 28% ใน 1Q64 EBITDA margin ปรับขึ้นสู่ 60% จาก 57% ใน 1Q64 และ 54% ใน 4Q64 คชจ.ที่ลดลงส่งผลให้ %SG&A ลดเหลือ 16% จาก 19% และ 20% ใน 1Q64 และ 4Q64 ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,328 ล้านบาท -39%YoY +28%QoQ (กำไรปกติ 2,158 ล้านบาท +72%YoY +27%QoQ)

ความเห็น :ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการเปิดโครงการต่อเนื่องหนุนรายได้มีศักยภาพเติบโตเนื่องปี 65 เปิดบริการสาขาจันทบุรี (26 พ.ค.) ปี 66 เปิดบริการใหม่สาขาราชพฤกษ์ คาดผลการดำเนินงานในช่วง 2H65 ฟื้นตัวดีชัดเจน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 8,888 ล้านบาท +24%YoY ราคาปัจจุบันเหลือ upside ไม่มาก ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 39 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 22 เท่า แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

หุ้นมีข่าว

(+) ALL (ราคาเหมาะสม 1.68 บาท) ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ พร้อมยกระดับสู่ "โฮลดิ้ง คอมพานี" แตกไลน์ 3 ธุรกิจใหม่ AMC บริหารหนี้ และคาร์บอนเครดิต รับกระแสเมกะเทรนด์หนุนโตก้าวกระโดด พุ่งเป้าดันมาร์เก็ตแคปแตะ 3 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกจากการปรับโครงสร้างบริษัท และการรุกเข้าทำธุรกิจ AMC บริหารหนี้ คาดจะช่วยเสริมรายได้จากธุรกิจอสังหาฯที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับธุรกิจ AMC บริหารหนี้ มีอัตราการทำกำไรสุทธิค่อนข้างสูง (CHAYO JMT BAM) เฉลี่ย 20-30% เทียบกับธุรกิจเดิมที่ราว 10-15% ประกอบกับ P/E กลุ่มบริหารหนี้เทรดกันที่ระดับ 40x เทียบกับธุรกิจเดิมที่ 10x ดังนั้น การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้ความสามารถทำกำไรของบริษัทดีขึ้น และตลาดอาจให้น้ำหนัก P/E หุ้น ALL สูงขึ้น

(+) ASIAN (Bloomberg Consensus 23.35 บาท) ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 19% จากเดิมตั้งเป้าโต 12% หลังไตรมาสแรก มีก้าไร 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ชูอาหารสัตว์เติบโตแรง บวกรับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน ส่วนบริษัทย่อย AAI คาดเข้าตลาดหุ้นปลายไตรมาส 3-4 ปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg Consensus 22.75 บาท) เล็งไตรมาส 2/2565 ยอด SSSG ยังสูง 19-20% ลุยเปิดสาขาเพิ่มปีละ 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพทั่วประเทศ เชื่อแตะ 36 สาขาภายในปี 2568 ขยายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเองไปที่ระดับ 2,000 SKU หนุนสัดส่วนรายได้แตะ 18% ดันมาร์จิ้นพุ่ง โบรกคาดครึ่งปีหลังเติบโตสูง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) UTP (Bloomberg Consensus 18.15 บาท) ดีมานด์ใช้กล่องบรรจุภัณฑ์โตต่อเนื่อง หนุนผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ EEC แย้มครึ่งปีหลังโตต่อจากกำาลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 20% ดันผลงานปี 2565 เติบโตเข้าเป้า 4.5 พันล้านบาท รับต้นทุนวัตถุดิบยังคงมีแนวโน้มความผันผวนในระดับสูงอยู่กดดันมาร์จิ้นแต่คุมได้ คาดแนวโน้มไตรมาส 2/2565 ฟื้นตัวต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)