“บิ๊กคอร์ป”รุกธุรกิจร้านขายยา ดึงพันธมิตร-เทคโนฯทำตลาด

“บิ๊กคอร์ป”รุกธุรกิจร้านขายยา  ดึงพันธมิตร-เทคโนฯทำตลาด

ธุรกิจร้านขายยาโตต่อเนื่อง “คอมเซเว่น” ร่วมทุน “บีดีเอ็มเอส” เปิดร้านขายยาตั้งเป้า 3 ปี 50 สาขา “เฮลท์ลีด” คาดมูลค่าตลาดปีนี้แตะ 2 แสนล้าน รับเทรนด์ผู้สูงอายุ-คนรักสุขภาพ “ทรู ดิจิทัล” ลุยแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ชูแอป “หมอดี” หาหมอออนไลน์ รับยาพร้อมเคลมประกัน

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ส่งผลให้ผู้บริโภคสนใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น และแนวโน้มตลาดยในประเทศไทยมีจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการในหลายธุรกิจกระโดดเข้ามาธุรกิจสุขภาพ 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เห็นหลายบริษัทจับมือกับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสุขภาพ รวมถึงบริษัทที่มีเทคโนโลยีดิจิทัล ที่สร้างแพลตฟอร์มขึ้นเพื่อให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงสนใจลงทุนในธุรกิจร้านขายยา โดยมองว่าธุรกิจมีมูลค่าตลาดใหญ่มากระดับ “แสนล้านบาท” และทิศทางของอุตสาหกรรมยังเติบโตต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากเมืองไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ดังนั้น ความต้องการยาและอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับสุขภาพจึงจำเป็น 

ดังนั้นบริษัททำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการร่วมลงทุนกับ บริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์ จำกัด หรือ RBH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ ในการประกอบธุรกิจร้านขายยา โดยประกอบธุรกิจขายยาขนาดใหญ่ในรูปแบบร้านสแตนด์อโลน (Standalone) และตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี2565 โดยคาดเห็นสาขาต้นแบบสาขาแรกภายในครึ่งปีหลัง และภายใน 3 ปี คาดจะมี 50 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ

สร้างโมเดลธุรกิจใหม่

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ของ COM7 และในเมืองไทยก็ยังไม่มีโมเดลแบบนี้ ที่ผสานเรื่องเทคโนโลยีมารุกด้านเฮลธ์อย่างจริงจัง เพราะมองในอนาคตรัฐบาลจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) เป็นโอกาสที่จะนำเรื่องของไอทีและเทคโนโลยี ในกลุ่มสินค้า IoT ต่างๆ ไปอยู่กับหมวดสินค้าที่เป็นเรื่องของสุขภาพได้เช่นกัน

ในฐานะที่ BDMS เป็นผู้เชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจการรักษาพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนด้านการรักษาพยาบาล และ COM7 เป็นผู้นำร้านค้าปลีกสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการกิจการค้าปลีก ความร่วมมือดังกล่าวจึงเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นแก่บริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์ในธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ รับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพ (Health & Wellness) และสอดรับประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยในอนาคต

"สถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้สะท้อนกระแสคนรักสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นมาก เราจึงจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เข้มแข็งในกลุ่มของ BDMS เพื่อมาต่อจิ๊กซอว์นี้ให้สมบูรณ์ และโฟกัสสินค้าเทคโนโลยีที่ดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายสุระ กล่าว

มูลค่าตลาด2แสนล้าน

นายธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL เปิดเผยว่า เมืองไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลทำให้ “ผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์การแพทย์” เป็นที่ต้องการมากขึ้น ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดเทรนด์รักสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจดูแลตัวเอง ผลักดันธุรกิจอาหารเสริม-วิตามินเติบโต 

สำหรับมูลค่าตลาดยาในประเทศไทยจากปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโรงพยาบาลภาครัฐ 60% โรงพยาบาลภาคเอกชน 20% และร้านขายยาอีก 20% หากคิดเป็นมูลค่าเฉพาะยาและเวชภัณฑ์ที่จำหน่ายผ่านร้านขายยา คิดเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท และมีทิศทางการเติบโตขึ้นทุกๆ ปี และในปัจจุบันคาดว่ามูลค่าตลาดแตะ “2 แสนล้านบาท” แล้ว เฉลี่ยเติบโตปีละ 3-5% ทุกปี รวมทั้งบริษัทมีแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาออนไลน์ที่ดำเนินการอยู่ด้วย 

ทั้งนี้จากความเข้มงวดของกฎหมายที่มากขึ้น มีการออกกฎหมายวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมชุมชน ในปี 2562 ซึ่งระบุว่าร้านขายยาทุกร้านจะต้องมีเภสัชกรประจำเท่านั้น รวมถึงจะต้องมีสถานที่และอุณหภูมิในการเก็บรักษายาที่เหมาะสมตามข้อกฎหมายกำหนด ส่งผลให้มีร้านขายยาต้องปิดตัวลงกว่า 5,000 แห่ง ทำให้คู่แข่งลดจำนวนลงไปมาก ขณะที่ตลาดมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘ทรู’โดดร่วมสมรภูมิเฮลธ์แคร์

นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแอปพลิเคชัน“หมอดี” (MorDee) เป็นแอปหมอประจำบ้าน อำนวยความสะดวกให้คนไทยหาหมอออนไลน์ได้ทุกที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สามารถปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากสถาบันชั้นนำได้ง่ายๆ ผ่านวิดีโอคอล โทร.หรือแชต เลือกได้กว่า 500 คน ครอบคลุมกว่า 20 สาขาเฉพาะทาง รวมถึงคลินิกเฉพาะทาง ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

ทั้งนี้ มีฟังก์ชั่นที่สำคัญ เช่นไม่ว่าจะเป็นการนัดพบแพทย์ตามวันและเวลาที่ต้องการ หรือเลือกพบทันที ช่วยให้เข้าถึงการรักษาได้เร็วกว่า ระบบค้นหาแพทย์ด้วยคีย์เวิร์ดที่ใช้งานง่าย มีบริการส่งยาถึงบ้านทั่วประเทศ สบายกระเป๋ากับ “เทเลเมดิเคลม” เคลมประกันกับบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรโดยไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถบันทึกข้อมูลสุขภาพและเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา และบริการทักแชตสอบถามได้ทุกเวลา

รวมทั้งปัจจุบันภาคสาธารณสุขเห็นได้ชัดถึงการเติบโตของเทเลเมดิซีนทั่วโลกตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล และแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มทรู พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและการสาธารณสุข เพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น แอป “หมอดี” ถือเป็นการต่อยอด สานต่อนวัตกรรม “ทรู เฮลธ์” แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะจุดเด่นบริการ O2Oเชื่อมโยงทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

พร้อมกันนี้ยังได้ขยายบริการออฟไลน์ เปิด “มุมสุขภาพทรู เฮลท์” ที่โลตัสและแม็คโครกว่า 18 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการตรวจเช็กสุขภาพเบื้องต้น พบแพทย์ออนไลน์ และซื้อยาตามแพทย์ทันที

บริการส่งยาทั่วประเทศ

นายอดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการธุรกิจดิจิทัล เฮลธ์บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู เฮลธ์ ให้บริการดูแลสุขภาพโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำกว่า 500 คน ด้วยความร่วมมือกับชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ครอบคลุมกว่า 20 สาขาเฉพาะทาง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงคลินิกเฉพาะทาง

สำหรับแอป “หมอดี” ได้ใช้เทคโนโลยีเอไอ และคลาวด์สร้างประสบการณ์พบแพทย์ออนไลน์แบบครบจบในแอปเดียวไม่ต้องเดินทางและรอคิวที่โรงพยาบาลมีระบบค้นหาแพทย์ด้วยคีย์เวิร์ด เพียงพิมพ์อาการเจ็บป่วย ชื่อคลินิก หรือชื่อแพทย์ มีบริการส่งยาถึงบ้านทั่วประเทศ เมื่อสั่งซื้อยาตามคำแนะนำของแพทย์ จัดส่งภายใน 3 ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมมีเภสัชกรโทรศัพท์แนะนำวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องในอนาคต 

“รวมทั้งได้มีแผนอัปเกรดฟังก์ชันให้สามารถรองรับการใช้งานได้มากขึ้น เช่นระบบ AI Doctor ฟังก์ชันอัจฉริยะที่จะช่วยคัดกรองและแนะนำแพทย์และคลินิกให้ตรงกับอาการป่วย รวมถึงบริการร้านยา เวชภัณฑ์ และสินค้าสุขภาพ แบบออนไลน์บนแอปที่ดูแลโดยเภสัชกรชำนาญการ” นายอดิภัทร กล่าว