ชาวสวนน้ำตาตก! ‘เงาะ-มังคุด’ ราคาร่วง
ชาวสวนน้ำตาตก!! หลังราคามังคุดตกฮวบ ต้องแบกรับต้นทุนค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าจ้างเก็บ ส่วนเงาะยิ่งถูกหนัก ทั้งที่เพิ่งได้เก็บส่งขายชุดแรก ราคาก็ร่วงจนขายได้ไม่คุ้มทุน
นายสุวิทย์ เพรชกรรจ์ (เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า) เจ้าของสวนผลไม้ เล่าว่า ราคามังคุดที่ร่วงลงมาเหลือเพียง กก.ละ 25-30 บาท ไม่คุ้มกับการลงทุนที่ต้องเสียไป เพราะราคาปุ๋ยสูงมาก ค่าจ้างแรงงานที่เก็บมังคุดก็แพงมาก แต่เมื่อมีผลไม้ให้เก็บก็ต้องเก็บ หากไม่เก็บก็เสียหาย ชีวิตชาวสวนลำบากมาก อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น สมาคมหรือล้ง จะปรับช่วยเหลือชาวสวนอย่างไร เพราะทุกปีไม่เคยเป็นแบบนี้ ราคาตกลงโดยที่ชาวสวนก็ไม่ทราบสาเหตุ
ขณะที่ นายอัมพร จำเป็น (ผ้าปิดหน้า) ผู้รับซื้อ บอกว่า ช่วงนี้ล้งไม่เปิดรับซื้อมังคุด แต่ตนเองก็ต้องเสี่ยงมารับซื้อมังคุดจากชาวสวน เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตกำลังออกจำนวนมาก จึงต้องตั้งราคาเอง ถือว่าเสี่ยง และก็ตัดสินใจมารับซื้อมังคุดในราคา กิโลละ 28บาทจากชาวสวน หากไม่ช่วยรับซื้อ ชาวสวนก็ไม่มีที่ขาย เพราะเก็บมาแล้ว
เช่นเดียวกับ นางแต๋ม เพรชกรรจ์ (ผ้าคลุมหน้าสีดำ) เจ้าของสวนเงาะ บอกว่า ปีนี้ชาวสวนลำบากและเดือดร้อนอย่างมาก เพราะเงาะเพิ่งออกสู่ตลาด แต่ราคาก็ตกตั้งแต่เริ่มต้น ส่งขายได้กิโลกรัมละ 22 บาท ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทั้งค่าปุ๋ยที่แพงขึ้นเท่าตัว และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ หากยิ่งต้องจ้างคนเก็บอีกก็ยิ่งไม่คุ้ม
ทั้งนี้สถานการณ์มังคุดและเงาะ ในจังหวัดระยอง ชาวสวนต้องเร่งเก็บผลผลิตทุกวัน เมื่อเก็บแล้วก็นำส่งขายให้กับผู้รับซื้อ ซึ่งจะตั้งจุดรับซื้อหลายแห่งตามริมถนน ใกล้กับสวนของเกษตรกร แต่ละจุดจะกำหนดราคารับซื้อแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา ซึ่งชาวสวนจำเป็นต้องขายให้โดยไม่มีอำนาจต่อรอง เพราะถ้าปล่อยไว้ ผลผลิตก็จะร่วงหล่น เน่าเสียหาย ทั้งยังต้องจ่ายค่าจ้างเก็บในราคาแพง โดยคนงานที่รับจ้างเก็บมังคุดคิดค่าจ้างกิโลละ 7-10บาท ทำให้ชาวสวนที่พอมีกำลังบางราย จำเป็นต้องเสี่ยงปีนต้นเก็บผลผลิตด้วยตัวเองเพื่อที่จะช่วยลดรายจ่ายได้