วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (19 พ.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อ หลังฮังการีไม่ร่วมคว่ำบาตร ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลด
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลงต่อ หลังสหภาพยุโรป (อียู) ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมฮังการีให้ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรในการลดการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์จากรัสเซีย ซึ่งเพิ่มแรงกดดันด้านราคา แม้ว่านักการทูตบางรายยังคงคาดหวังต่อการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรในการประชุมสุดยอดช่วงปลายเดือน พ.ค. 65
+ ตลาดยังคงกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่ยังตึงตัวต่อเนื่อง หลังวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร หรือโอเปคพลัส รายงานเลขปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียเดือน เม.ย. 65 ปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อมอสโก
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 13 พ.ค. 65 ปรับตัวลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 420.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ (SPR) ลดลง 5 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 538 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 30
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตการปิดเมืองในหลายประเทศของเอเชีย ขณะที่จีนมีแนวโน้มลดการส่งออกน้ำมันเบนซิน หลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในหลายประเทศปรับตัวดีขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ขณะที่อุปทานน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากโรงกลั่นกลับมาจากปิดซ่อมบำรุง