PTT ยืดหนี้กฟผ. 1.3 หมื่นล้าน เว้นดอกเบี้ย 340 ล้าน ลดต้นทุนค่าไฟช่วยประชาชน
บอร์ด PTT ไฟเขียว ยืดหนี้ค่าก๊าซธรรมชาติงวดพ.ค.กว่า 1.3 หมื่นล้าน ให้กฟผ. โดยไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยกว่า 340 ล้านบาท หวังช่วยลดต้นทุน ลดผลกระทบค่าไฟฟ้าประชาชน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) หรือ PTT เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติให้ปตท. ร่วมช่วยบรรเทาภาระต้นทุนผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อลดผลกระทบค่าไฟฟ้าต่อภาคประชาชน ในช่วงสถานการณ์วิกฤตด้านราคาพลังงานของประเทศไทย โดยการไม่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยจากการชำระค่าก๊าซธรรมชาติล่าช้ากับกฟผ. สำหรับการขอเลื่อนชำระเงินค่าก๊าซฯ งวดเดือนพฤษภาคม 2565 ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนมิถุนายน ของ กฟผ. ไปชำระภายในเดือนตุลาคม 2565 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 340 ล้นบาท
นายอรรถพล กล่าวว่า กฟผ. ได้แบกรับภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในการช่วยตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ตามนโยบายของภาครัฐตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์พลังงานโลกที่มีความผันผวนสูง ส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้ามีต้นทุนสูงขึ้นมาก ประกอบกับประชาชนยังคงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. จึงมีมติอนุมัติให้ ปตท. ร่วมช่วยบรรเทาภาระต้นทุนผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชน โดยการเลื่อนกำหนดชำระเงินค่าก๊าซฯ งวดเดือนพฤษภาคม 2565 มูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท ออกไปเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยไม่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยมูลค่าประมาณ 340 ล้านบาทที่จะเกิดขึ้น เพื่อมีส่วนช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับ กฟผ. ในการแบกรับต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน
"ปตท. และ กฟผ. ต่างเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน และจากวิกฤตการณ์พลังงานดังกล่าว ทั้งสององค์กรได้หารือร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากกระทรวงพลังงานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพิจารณาการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด และคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงานของประเทศตามพันธกิจหลักของทั้งสององค์กร"นายอรรถพล กล่าว