เลือกเล่นรายตัว (วันที่ 20 พฤษภาคม 2565)

เลือกเล่นรายตัว (วันที่ 20 พฤษภาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดลบ 14 จุด ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นดาวโจนส์ Nasdaq และตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งร่วงหนัก 2-4% กังวลราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเริ่มกดดันผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน

นอกจากนี้ข่าวฟินด์แลนด์และสวีเดนสมัครเข้าเป็นสมาชิก NATO ก็เป็นอีกปัจจัยกดตลาด

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,600 - 1,615 จุด  แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงส่งผลให้งบ Q2/22 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความกังวล FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อจะเป็นลบต่อทิศทางลงทุน นอกจากนี้ภาวะสงครามยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อจะเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง จึงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว  

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น

          PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง

          AOT MINT CENTEL ERW BDMS BH BEM BTS อานิสงส์การเปิดประเทศ

 

หุ้นแนะนำวันนี้

TOP (ปิด 57.25 ซื้อ/เป้า 63 บาท) เก็งกำไรรับข่าวโรงกลั่น S-Oil ในเกาหลีใต้เกิดเหตุไฟไหม้ โดยโรงกลั่นดังกล่าวมีกำลังการผลิต 530,000 บาร์เรลต่อวัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ คาดปัจจัยนี้จะยังหนุนให้ค่าการกลั่นในภูมิภาคจะยังทรงตัวในระดับสูงจากภาวะซัพพลายที่ตึงตัว

PSL (ปิด 20.6 ซื้อ/เป้า 25 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q22 ดีต่อเนื่องตามทิศทางดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ที่เพิ่มขึ้นและคาดว่ากำไรสุทธิจะทำจุดสูงสุดของปีได้ในช่วง 3Q22 จาก high season ของธุรกิจ โดยวันนี้ BDI เพิ่มขึ้นอีก 100 (+3.14%) ปิดที่ระดับ 3,289 สูงสุดในรอบ 5 เดือน

 

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

      AH (ปิด 22.8 ซื้อ/เป้า 32.50 บาท), TVO (ปิด 31.5 ถือ/เป้า 33.50 บาท)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ยังไม่ฟื้น ปัจจัยลบเดิมคือกลัวเงินเฟ้อและเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยยังกดดันตลาด: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 237 จุด หรือ -0.75% ปิดที่ 31,253 จุด นักลงทุนยังกังวลต่อผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นรวมถึงผลกระทบที่จะตามมาจากการที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า มีโอกาส 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะที่เวลส์ฟาร์โกคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในช่วงสิ้นปี 2565 จนถึงต้นปี 2566

(+) น้ำมันดิบกลับมาปิดบวกคาดหวังจีนคลายล็อกดาวน์เชี่ยงไฮ้หนุนดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาฟื้นตัวโดยปิดเพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 112.21 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนคาดหวังความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะเพิ่มขึ้น จากการที่นครเซี่ยงไฮ้วางแผนยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย.และมีแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า

(+/-) สัปดาห์หน้าติดตามตัวเลข ส่งออก/นำเข้า ของไทยและ Fed Minute ของสหรัฐ: ไทยจะรายงานตัวเลข ส่งออก/นำเข้า เดือน เม.ย.ในวันที่ 23 พ.ค. BB Consensus คาดว่าจะขยายตัว 14.5%yoy ยังเติบโตดีแม้จะลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัว 19.5%yoy ขณะที่ปลายสัปดาห์ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมของ FED หรือ FED Minutes คาดท่าทีหรือความเห็นของคณะกรรมการส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยซึ่งเป็นลบกับตลาด