“ศุภาลัย”จับชีพจรอสังหาฯต่างจังหวัดฟันธง“ภูเก็ต- สงขลา-เชียงใหม่ ”ฟื้น
“ศุภาลัย” ฟันธงอสังหาฯต่างจังหวัดฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุด กำลังซื้อ“ภูเก็ต- สงขลา -เชียงใหม่ ”เด้งกลับมาแรงคาดปีนี้รายได้ตจว.ทะลุ1.2หมื่นล้านล่าสุดผุดบิ๊กโปรเจค“ศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์”อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ชิงดีมานด์บ้านพักตากอากาศ
10กว่าปีที่ผ่านมา "ศุภาลัย" เป็นบริษัทอสังหาฯจากส่วนกลางที่เข้าไปบุกต่างจังหวัดมากที่สุดจนสามารถพูดได้ว่าเป็นผู้นำตลาดถือเป็น "แต้มต่อ"สำคัญที่ทำให้ยอดขายของศุภาลัยเติบโตแข็งแกร่ง แม้จะเกิดวิกฤติโรคระบาดในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา
“ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันศุภาลัยมีโครงการในต่างจังหวัด 20 กว่าจังหวัด บางจังหวัดเริ่มสร้างแต่ยังไม่ขาย ในฐานะเจ้าตลาดต่างจังหวัด ประเมินว่า สถานการณ์ตลาดในต่างจังหวัดในปีนี้ดีขึ้น จากสัญญาณบวกในแง่ของกำลังซื้อที่ดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี2564 สังเกตได้จากไตรมาสแรกที่ผ่านมาเราขายแนวราบสูงสุดในรอบ33 ปีตั้งแต่ตั้งบริษัท และยอดการเข้าเยี่ยมชมโครงการของลูกค้าสูงขึ้นกว่าปีก่อน 10-20% สะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา
“สัญญาณบวกที่ชัดเจนก็คือยอดขายบ้านที่ภูเก็ตเติบโตขึ้น หลังจาก2ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวรุนแรงทำให้รายได้คนลดลงและกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป ในปีนี้ภูเก็ตจะกลับมาเป็นจังหวัดต้นๆของศุภาลัยที่ทำยอดขายได้ดีเกิน1,000 ล้านบาทจากสมัยก่อนที่มียอดขาย1,000กว่าล้านบาท เป็นอันดับหนึ่ง หลังจากเกิดโควิดตกลงเชื่อว่า ปีนี้จะฟื้นตัวกลับมารวมทั้งในจังหวัดใกล้เคียงกันอย่างหาดใหญ่ สงขลาก็ทำยอดขายได้ดี เพราะในปีที่ผ่านมายอดขายสงขลาเกิน1,000 ล้านบาท ”
ประทีป กล่าวว่า ช่วง4 เดือนที่ผ่านมามีคนที่ซื้อบ้านในภูเก็ตประมาณ 10หลัง ราคาหลังละ10 กว่าล้านและมีการสั่งสร้างบ้านหลังใหญ่เพิ่มขึ้น 1ใน10 เป็นคนที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว ที่เหลือเป็นเจ้าของกิจการ โรงงาน ส่งออกอาหารทะเล เจ้าของสวนยาง ซึ่งไม่ได้รับกระทบจากการท่องเที่ยวมาซื้อบ้าน บางคนก็ซื้อบ้านศุภาลัยที่เชียงรายแล้วราคา10กว่าล้านเพราะทำธุรกิจที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างเชียงรายกับภูเก็ต
“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ ศุภาลัย กล่าวเสริมว่า การฟื้นตัวตลาดอสังหาฯต่างจังหวัดไม่เท่ากันทุกจังหวัด จากผลกระทบโควิด-19ที่กระทบตลาดต่างจังหวัดต้องดูว่ากระทบจังหวัดไหนมากกว่า
ยกตัวอย่าง จังหวัด ภูเก็ต เชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเนื่องจากพึ่งพิ่งรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ขณะที่จังหวัดระยอง และชลบุรี มีรายได้จากภาคอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า ฉะนั้นการฟื้นตัวจึงไม่เท่ากัน ยิ่งได้รับผลกระทบมากเวลาฟื้นตัวกลับมากกว่า
ในปีนี้บริษัทมีการเปิดตัวโครงการต่างจังหวัดถึง34 โครงการมากกว่าในกรุงเทพฯ คาดว่า ยอดขายน่าถึง 12,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43% ของเป้ายอดขายรวมปี 2565 จากเดิมที่มียอดขายจากต่างจังหวัดเฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาท
สำหรับ 5 จังหวัดที่เป็นรายได้หลักของศุภาลัย ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ,สงขลา ,เชียงใหม่ , ชลบุรีและ ระยอง ซึ่งที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้ต่างจังหวัดอยู่ที่ 35% ขยับขึ้นมาเป็น41% เชื่อปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก
โดยล่าสุด ศุภาลัย ได้เปิดบิ๊กโปรเจค “ศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์”มีมูลค่ารวม 3,800-4,000 ล้านบาทที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมอิตาลี บนพื้นที่172 ไร่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการศุภาลัย เบลล่า ดอนแก้ว-แม่ริม บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว พื้นที่ 38 ไร่ มีทั้งบ้านเดียวและบ้านแฝดราคาเริ่มต้นตั้ง 4-6 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายต้นปี2565ที่ผ่านมา
2.โครงการศุภาลัย ทัสคานี ดอนแก้ว-แม่ริม บ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น พื้นที่ 92 ไร่ ราคาเริ่ม 5-16 ล้านบาท เตรียมเปิดขายวันที่ 28-29 พ.ค. 2565
3. พื้นที่โครงการในอนาคต ที่รอการพัฒนา
" 2โครงการขายไปแล้วกว่า200ล้านบาททั้งที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่กรุงเทพฯ ที่ต้องการบ้านพักตากอากาศ ให้ความสนใจมากโดยเฉพาะโครงการศุภาลัย ทัสคานี ดอนแก้ว-แม่ริม ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ คาดว่าโครงการนี้อาจมีลูกค้าจากกรุงเทพฯ มากถึง 50% ของยอดขาย จากปกติจะมีสัดส่วน 10-15% ส่วนที่เหลือจะเป็นคนในพื้นที่และชาวต่างชาติ ที่อยู่ในเมืองไทย"
จากศูนย์ข้อมูลอสังหาฯพบว่า แม่ริม เป็นหนึ่งในโหนดที่มีขนาดใหญ่และจำนวนยูนิตเหลือขายไม่ถึง1,000ยูนิต จึงเป็นหนึ่งในทำเลที่มีความต้องการสูง เพราะสินค้าถูกดูดซับไปเกือบหมด แต่ขนาดเดียวกันมี "จุดอ่อน "คือ ขาดคือร้านค้า ร้านอาหารที่เข้ามารองรับเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน จึงเป็นเหตุผลที่ดึง "กาดฝรั่ง " เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ ในการพัฒนาพื้นที่ อ.แม่ริม ด้วยการสร้าง "เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม "ไลฟ์สไตล์มอลล์ เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ให้ชุมชนในพื้นที่ หรือคนที่มาท่องเที่ยวแม่ริม ซึ่งจะประกอบไปด้วย ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้า ร้านอาหารแบรนด์ดังมากมาย อาทิ แมคโดนัลด์ KFC สตาร์บัคส์
การร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจของบมจ.ศุภาลัย “Built for Real Life…บ้านที่คิดจากชีวิตจริง” ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกบ้าน ที่สำคัญไลฟ์สไตล์ มอลล์แห่งใหม่นี้ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและความคึกคักให้กับเศรษฐกิจ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ให้ชาวเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง
โดยโครงการเริ่มก่อสร้างแล้วและมีกำหนด Soft Opening ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของจ.เชียงใหม่ภายในปี 2565 และเตรียมเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 1 ปี 2566
"ปีนี้เราเปิดโครงการต่างจังหวัด34 โครงการ ซึ่งศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์ถือว่าเป็นโครงการชูโรงของศุภาลัยในเชียงใหม่ ที่มีความแปลกใหม่และดีกว่าเดิม และแตกต่างจากของคนอื่นและแตกต่างจากที่เราเคยทำมาด้วย" ประธานกรรมการบริหาร ศุภาลัย กล่าวทิ้งท้าย