ช่วยคนไทยสู้ค่าครองชีพ "โลตัส" ชูสินค้าแบรนด์ "คุ้มค่า" House Brand คุณภาพดีในราคาถูก
"โลตัส" ช่วยคนไทยสู้ค่าครองชีพ ชูสินค้าแบรนด์ "คุ้มค่า" ยกทัพ House Brand คุณภาพดี เพิ่มทางเลือกผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าราคาถูกเกือบ 100 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ เริ่มต้นเพียงแค่ 8 บาท จำหน่ายในโลตัสทุกสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพราะผลกระทบ โควิด-19 ประกอบกับการปรับขึ้นราคาสินค้า ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน และต้นทุนของผู้ประกอบการขนาดเล็ก โดยข้อมูลจาก สวนดุสิตโพล* ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องความหนักใจของคนไทย พบว่า ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง คือเรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุด
"โลตัส" ตระหนักถึงความกังวลของผู้บริโภค จึงได้พัฒนากลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ภายใต้แบรนด์ "คุ้มค่า" โดยคัดของกินของใช้จำเป็นเกือบ 100 รายการ เริ่มต้นเพียง 8 บาท จำหน่ายในโลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อยท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจ และการขยับตัวขึ้นของราคาสินค้า
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า เราคัดเลือกสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและวัตถุดิบสำคัญสำหรับผู้ประกอบการทั้งหมด 95 รายการ ในราคาที่คุ้มค่า โดยยังคงมาตรฐานด้านคุณภาพ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจำเป็นที่มีราคาสูง รวมถึง ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ให้สามารถซื้อวัตถุดิบแบรนด์คุ้มค่า เพื่อควบคุมต้นทุนสินค้าและต่อยอดในการสร้างรายได้ต่อไป
สำหรับสินค้าแบรนด์ "คุ้มค่า" ที่โลตัสนำมาเสนอ ครอบคลุมหลายหมวดหมู่ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และสินค้าจำเป็นในร้านค้าร้านอาหารสำหรับผู้ประกอบการ อาทิ
- ข้าวเสาไห้ 35% 5 กก. ราคา 95 บาท
- ผงซักฟอก 2,700 กรัม ราคา 89 บาท
- ซอสพริกศรีราชา 750 กรัม ราคา 20 บาท
- ไส้กรอก 1 กก. ราคา 69 บาท
- ลูกชิ้นหมูผสมไก่ 900 กรัม ราคา 119 บาท
- น้ำยาล้างจานกลิ่นมะนาว 400 มล. ราคา 8 บาท
- กระดาษชำระ 24 ม้วน ฟรี 6 ม้วน ราคา 93 บาท
- ซอสหอยนางรม 1 กก. ราคา 24 บาท
- น้ำจิ้มไก่ 3.5 กก. ราคา 105 บาท
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่บางส่วนของสินค้าที่ทาง "โลตัส" พัฒนาขึ้นภายใต้แบรนด์ "คุ้มค่า" โดยหวังว่าจะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งนอกเหนือจากช่วยให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยได้ประหยัด ท่ามกลางสภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน เพราะสินค้าแบรนด์ "คุ้มค่า" ส่วนใหญ่ SME ไทยเป็นผู้ผลิต
หมายเหตุ *ข้อมูลการสำรวจจากสวนดุสิตโพล ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,047 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565