รีบาวนด์ตามรอบบ้าน - (วันที 26 พฤษภาคม 2565)

รีบาวนด์ตามรอบบ้าน - (วันที 26 พฤษภาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET พลิกปิดลบ 1 จุด กังวลข่าวพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงรายแรกในเอเชีย (UAE) ประกอบกับนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานการประชุม (FED Minutes) ในคืนนี้

หุ้นที่ปรับขึ้นวานนี้เป็นกลุ่มที่มีปัจจัยหนุน อาทิ รับเหมาฯ รับข่าว รฟม.ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET รีบาวนด์ขึ้นแนวต้าน 1,630 - 1,635 จุดก่อนสลับอ่อนตัว จากแรงหนุนรายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค.เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อโดยมั่นใจว่าไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายตามสัญญาณเทคนิคที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

        PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง

        AOT MINT CENTEL ERW BDMS BH BEM BTS CPALL อานิสงส์การเปิดประเทศ

       STA NER demand ยางพาราเพิ่มขึ้นหลังจีนลดภาษีรถยนต์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

หุ้นแนะนำวันนี้

BDMS (ปิด 27 ซื้อ/เป้า 31 บาท) กำไรดีพึ่งจะเริ่มต้น โดยเราจะเห็นการเติบโตของกำไรเร่งตัวขึ้นในทุกไตรมาสของปีนี้จากจำนวนผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดที่ทยอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจากต่างประเทศ ที่จะเข้ามามากขึ้นจากการเปิดประเทศ

CK (ปิด 21 ซื้อ / เป้า 23.80 บาท) รฟม.เปิดขายซองประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท มอง CK เป็นเต็งหนึ่งเนื่องจากงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดินซึ่ง CK มีประสบการณ์และความชำนาญในการก่อสร้างมากที่สุดในกลุ่ม

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

CK (ปิด 21 ซื้อ/เป้า 23.8 บาท), VGI (ปิด 4.68 ซื้อ/เป้า 7 บาท)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+/-) FED Minutes คณะกรรมการหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% แต่มั่นใจ ศก. ไม่ถดถอย: เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมส่วนใหญ่หนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุม 2 ครั้งคือ มิ.ย. และ ก.ค. เพิ่มควบคุมเงินเฟ้อ และมั่นใจว่า ศก. สหรัฐมีความแข็งแกร่งมากทำให้การขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่ทำให้ ศก. ถดถอย ส่งผลให้ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกโดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 192 จุด (+0.6%) ปิดที่ระดับ 32,120 จุด

(+) สต็อกน้ำมันสหรัฐลดลงหนุนราคาน้ำมันดิบพลิกปิดบวก: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ (+0.5%) ปิดที่ระดับ 110.33 $/bbl หลังจาก EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 737,000 บาร์เรล และยังคาดหวังชาวอเมริกันจะใช้รถยนต์และพลังงานเพิ่มขึ้นในฤดูกาลท่องเที่ยว Memorial Day (สิ้นเดือน พ.ค. – ก.ย.)

(+/-) พรุ่งนี้ติดตาม PCE Price Index ตัวแทนเงินเฟ้อของสหรัฐ จะปรับตัวลงได้หรือไม่: ดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) เป็นดัชนีที่เฟดใช้เป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อเพื่อประกอบการพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดเดือนมี.ค.ตัวเลขดังกล่าวพุ่งแตะระดับ 6.6% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เฝ้าจับตาว่าตัวเลขเดือน เม.ย.จะในทิศทางเดียวกับ CPI หรือไม่หากลดลงนับเป็นสัญญาณบวกถึงอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว