ประมง ’เกาะกูด’ เงินสะพัดวันละ 5 พันบาท!

นายวันเพ็ญ นาคประสบ อายุ 60 ปี ชาวบ้านอ่าวสลัด ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ในช่วงนี้ว่า เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565เป็นต้นมา ทะเลเกาะกูดจะมีความอุดมสมบูรณ์มาก หลังจากเริ่มมีลมมรสุมพัดเข้าฝั่ง และมีฝนตกชุก นอกจากจะทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์กับป่าไม้ แหล่งต้นน้ำลำธารแล้ว ทะเลจะเย็น เพราะมีฝนตกชุก และยังมีลมมรสุมพัดเข้าฝั่งเกาะกูด ทำให้กุ้ง หอย ปู ปลามีชุกชุมในทะเลเกาะกูด ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะกูด ทั้งบ้านคลองมาด บ้านอ่าวสลัด บ้านง่ามโข่ บ้านอ่าวพร้าว บ้านบางเบ้า และบ้านอ่าวใหญ่
 
สำหรับชุมชนบ้านอ่าวสลัด ม.6 ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด เป็นชุมชนประมงพื้นบ้าน มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 100หลังคาเรือน มีเรือประมงพื้นบ้านกว่า50-60ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรือประมงอวนปู อวนกุ้ง อวนปลา เรือตกปลา ตกหมึก และเรืออวนลาก ทะเลเกาะกูดช่วงนี้ เรืออวนปู จะลอยอวนจับปูม้ากันได้มาก วันละเป็นตัน ซึ่งชาวประมงจะนำมาขายส่งให้พ่อค้า แม่ค้าที่มารับซื้อไปขายต่อกับร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทที่พักบนเกาะกูด

นายวันเพ็ญ บอกว่า ช่วงนี้ ราคาปูม้าไม่แพง ถ้าเป็นปูม้าไซต์คละ ราคากก.ละ100-150บาท แต่ถ้าเป็นปูม้าคัดเกรดขนาดใหญ่ 4 ตัว /กก.ราคากก.ละ300 บาทขึ้นไป เรือประมงแต่ละลำ จะจับปูม้าได้วันละ 20-50 กก. แล้วแต่มีอวนมาก หรือน้อย มีรายได้กันวันละ 3พัน-5 พันบาทเลยทีเดียว
 
นายวันเพ็ญ ยังบอกด้วยว่า เหตุที่ปูม้าและสัตว์ทะเลชุกชุม เพราเป็นช่วงฤดูฝน ทะเลเย็น และมีลมมรสุมพัดเข้าฝั่งเกาะกูด นำกุ้ง หอย ปู ปลาเข้ามาอาศัยในทะเลใกล้เกาะกูดกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นเพราธรรมชาติท้องทะเลได่พักฟื้นมานานหลังสถานการณ์โควิด19 และนอกจากนี้บนเกาะกูดก็ยังมีธนาคารปูม้า ที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ นำแม่พันธุ์ปูม้า มาเพาะฟักลูกปูม้า ก่อนปล่อยลงสู่ทะเลเป็นประจำทุกๆวันด้วยเป็นการเพิ่มประชากรปูม้าให้ทะเลเกาะกูดจนเกิดความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าว
 
นายวันเพ็ญ ยังอธิบายถึงปัญหาของชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะกูดด้วยว่า ปัญหาที่หนักใจในขณะนี้ และอยากให้รัฐบาล หรือหน่วยงานรัฐ เข้ามาดูแลก็คือ ปัญหาในเรื่องของราคาน้ำมันที่มีราคาแพง เพราะเรือประมงพื้นบ้าน มีทั้งที่ใช้น้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล บางครั้งเติมน้ำมันไป 1 พันบาท แต่จับปูขายได้ไม่ถึงพันบาท ก็ถือว่าขาดทุน แต่หลังจากช่วงนี้ มีปูชุกชุม ชาวประมงพื้นบ้าน พอมีรายได้กันมากขึ้น