ไม่ไป THAIFEX - ANUGA ASIA..อาจพลาด! ตกเทรนด์อาหารเครื่องดื่ม
เดินทางมาถึงวันสุดท้ายแล้วสำหรับงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม 2565 หรือ THAIFEX - ANUGA ASIA 2022 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
หากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ปีนี้ไม่ได้จับจองพื้นที่ออกบูธ ถือว่าพลาดแล้ว แต่หากไม่ไปสำรวจตลาดอาจพลาดยิ่งกว่า เพราะปีนี้เทรนด์อาหารใหม่ๆ ยังคงมีมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
งาน THAIFEX ปีก่อนที่เกิดในช่วงโควิด-19 นอกจากจะเงียบเหงา เพราะไร้เงานักลงทุนต่างชาติ ทำให้ปีนี้ มีผู้ประกอบการบางส่วน “ตัดสินใจ” ไม่ออกบูธ เนื่องจาก “ตัวแปร” ที่มีผลต่อการออกงาน คือสถานการณ์โควิด และมาตรการรัฐ หากการแพร่ระบาดยังคงมีสูง การ “กักตัว” ของนักธุรกิจต่างแดนเกิดขึ้น ทำให้บางรายไม่เดินทางมาเยี่ยมชมงาน
แต่ THAIFEX ปีนี้ เกินคาด! เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ Exhibitor ออกงาน ได้เห็นนักลงทุนตบเท้าเข้างานกันอย่างหนาตา วันที่ 2 ซึ่งเป็นพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงาน ยิ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน ต่างชาติ
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการไทยใจชื้น หน้าบานกันถ้วนหน้า ซึ่งจากการที่ “กรุงเทพธุรกิจ” ลงพื้นที่สำรวจงาน และพูดคุยกับผู้ประกอบการต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า งาน THAIFEX ปีนี้ ผลตอบรับดี
อย่าง พจนา พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรซิเดนท์ อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด ผู้ทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ในต่างประเทศ กล่าวว่า เดิมคาดการณ์นักลงทุนต่างชาติจะมีไม่มากนัก แต่ภาพรวมเกินคาด อย่างบูธของ “มาม่า” มีคู่ค้าเข้ามาเยี่ยมชม เจรจาธุรกิจวันที่ 2 ราว 50 ราย จากคาดไว้เพียง 10 รายเท่านั้น
ขณะที่การเดินสำรวจงานในปีนี้ ยังกินเวลานานกว่าจะครอบคลุม เทียบกับปีก่อนใช้เวลาราว 40 นาที แวะเวียนบูธต่างๆได้ครบถ้วน
นอกจากนี้ บรรดาผู้บริหารรายอื่นๆ อย่าง เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด ได้ประเมินว่าการส่งออกอาหารปีนี้จะเติบโตขึ้น แต่การโตจะมากกว่าคาด หากไร้ปัจจัยลบด้านซัพพลายเชน ที่ทั้งค่าขนส่งแพง และขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งสินค้า
เถ้าแก่น้อยเอง นอกจากทำตลาดสแน็คสาหร่ายในประเทศ “จีน” เป็นอีกขุมทรัพย์ใหญ่ที่ทำเงินมาหลายปี แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด จึงเลี่ยงผลกระทบยาก การออกงาน จึงเป็นหนึ่งในยุทธวิธีของการ “พบปะสานสัมพันธ์” กับ “คู่ค้าเดิม” เพื่อรักษาฐานตลาดสร้างรายได้หล่อเลี้ยงองค์กร
ด้าน ปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ ปุ้มปุ้ย ให้มุมองเดียวกันว่า งาน THAIFEX กระแสผู้คนเข้าร่วมงานอยู่ในเกณฑ์ดี และบริษัทมีต่างชาติสนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียดสินค้า อย่างเวียดนาม งานนี้ยังเป็นโอกาสดีในการกลับมาสร้างแบรนด์ “ปุ้มปุ้ย” ให้ผงาดอีกครั้ง หลังปมความขัดแย้งธุรกิจกงสี ทำให้เกิดการสะดุดไปบ้างบางช่วง
ในงาน THAIFEX ไฮไลท์สำคัญ นอกจากองค์กรยักษ์เล็ก-ใหญ่ จับจองพื้นที่จัดบูธประชันกัน การนำเสนอสินค้านวัตกรรม เป็นอีกจุดขายที่ขาดไม่ได้ ซึ่งปีนี้ หากใครมีโอกาสเดินเข้าไปสัมผัสภายในงานจะเห็น “จักรวาลอาหารแห่งอนาคต” โดยเฉพาะ “แพลนต์เบส” ที่มาแรงมาก ทุกค่ายอวดโฉมสินค้ากันแบบหมัดต่อหมัด ไม่ว่าจะเป็น ซีพีเอฟ เบทาโกร วี ฟู้ดส์(ประเทศไทย)
ใครสนใจเมนูไหน เรียกว่าแวะ “ลิ้มลอง” เพื่อให้คะแนนรสชาติความอร่อยถูกปากกันได้
อีกเทรนด์ที่ไม่กล่าวถึง คงตกขบวน คือส่วนผสม “กัญชากัญชง” ที่ถูกรังสรรค์สู่เมนูอาหารและเครื่องดื่มกันจำนวนมาก “NRF” หนึ่งในผู้นำแพลนต์เบส มีไอศกรีม ซอสพริกศรีราชาผสมน้ำมันใบกัญชง และสินค้าอีกมากมายที่ผสมกัญชากัญชงให้ลิ้มลอง “ทิปโก้” นอกจากนำเสนอน้ำผลไม้ ยังเข็นเครื่องดื่มผสมกัญชา เช่น Tipco Leafly มาอวดโฉมก่อนทำตลาดและวางขายจริงปลายปี ยังมีเครื่องดื่มมอลต์ผสมใบกัญชาแอลกอฮอล์ 0.0 ออกมาเสริมทัพ
ฟาก “ไทยฮา” เจ้าของแบรนด์ตราเกษตร ลุยทีมีทั้งครื่องดื่ม Hemp shot และน้ำกระท่อมผ่านแบรนด์ “ดอยธัมม์”
เพราะวิกฤติโควิดทำลายสุขภาพและชีวิตผู้คน ทำให้เทรนด์เครื่องดื่มสุขภาพ โดยเฉพาะหมวดสมุนไพร แข่งออกสินค้าขับเคี่ยวกันจำนวน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ผสมกระชายขาว ผสมขมิ้นชัน เครื่องดื่มน้ำมะขาม เป็นต้น
อีกสินค้ายอดนิยมที่ห้ามมองข้าม! และเป็น “โอกาสทอง” ทางการตลาดของผู้ประกอบการ ต้องยกให้ “น้ำปลาร้า” เพราะหากสำรวจบูธจะพบว่าหลากแบรนด์วางประชันกัน อย่าง อำพลฟูดส์ฯ ที่นอกจากเป็นผู้ผลิตสินค้า ยังผันตัวสู่การเป็น “ตัวแทนจำหน่าย” หนึ่งในฮีโร่ โปรดักท์คือน้ำปลาร้า “แซ่บไมค์” ของศิลปินเพลงลูกทุ่ง “ไมค์ ภิรมย์พร” วางขายหลายสูตรมาก ด้านเซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ ก็ยกปลาร้ามาวางเต็มชั้นวาง(เชลฟ์) พร้อมยกจุดเด่นการเป็นโรงงานผลิตน้ำปลาร้าเจ้าแรกที่ได้ อย. เป็นต้น
“เกรียงศักดิ์” แม่ทัพอำพลฟูดส์ ฯ บอกว่า ช่วง 5 ปีก่อน ปลาร้ามีเพียงหลัก 10 แบรนด์เท่านั้น ปัจจุบันนับแทบไม่ไหว เพราะตัวเลขทะลุ 300 ยี่ห้อแน่ๆ ส่วนมูลค่าตลาดไม่ต้องพูดถึง ทะยานหลัก “หมื่นล้านบาท” เห็นจะได้ เพราะแค่ “แซ่บไมค์” ขายทำเงินหลัก 500-600 ล้านบาทต่อปี
เหล่านี้เป็นเพียง น้ำจิ้มของงานเท่านั้น หากใครอยากเห็นเทรนด์อื่นๆ ไปแวะเวียนกันได้ วันนี้ 28 พฤษภาคม วันสุดท้ายแล้ว ยิ่งเป็นผู้ประกอบการต้องไป เพื่อให้ “รู้เขารู้เรา” รบร้อยครั้งจะได้ชนะมากกว่าแพ้!
