"สนธิรัตน์" แนะรัฐบาลทำความเข้าใจประชาชน รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง
"สนธิรัตน์" แนะรัฐบาลเร่งทำความเข้าใจประชาชน รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ตั้งสมมติฐานกรณีแย่สุดสงครามไม่เลิกภายใน 1 ปี พร้อมวางแผนที่ทำได้ทั้งการอุดหนุน การลดภาษี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2565 เกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง โดยระบุว่าเรื่องการสื่อสารกับประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ครับวันนี้ เรื่องราคาน้ำมัน แก๊ส รัฐบาลต้องบอกให้ประชาชนทราบว่า เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ควรต้องเตรียมรับมืออย่างไร รัฐเองก็ต้องคิดถึงเหตุการณ์ข้างหน้าเพื่อเตรียมรับมือเช่นกัน
นายสนธิรัตน์ ได้ชวนดูส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ในรายการฐานทอล์ค เมื่อวันพุธที่ 1 มิ.ย.2565
สำหรับบทสัมภาษณ์ดังกล่าว นายสนธิรัตน์ ระบุว่า การมองปัญหาเรื่องราคาน้ำมันจะมองว่าสมมติฐานกรณีสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ไม่เลิกภายใน 1 ปี ครึ่ง เป็นกรณีแย่ที่สุดที่รัฐบาลต้องตั้งโจทย์ไว้ และจากนั้นรัฐบาลต้องรู้ว่าราคาน้ำมันในแต่ละระดับรัฐบาลเข้าไปดำเนินการได้ 2 เรื่อง คือ
1.การชดเชยราคาน้ำมัน
2.การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
ทั้งนี้ล่าสุดรัฐบาลลดภาษีภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท ในขณะที่ภาครัฐกำหนดเพดานไว้ที่ 5 บาท โดยรัฐบาลได้ตั้งสมมติฐานว่าจะอุ้มราคาไว้ได้นานแค่ไหนหรือยัง ซึ่งรัฐบาลต้องมีคำตอบว่าจะดูแลราคาไปได้นานแค่ไหน
"ถ้าเป็นผมจะสื่อสารกับประชาชนให้รับทราบสถานการณ์ราคาเป็นอย่างไร ให้ราคาน้ำมันเป็นที่รับรู้เหมือนพยากรณ์อากาศว่าวันนี้ขึ้นหรือลง ถ้าถึงจุดนี้เป็นจุดอันตรายแล้ว" นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ ได้โพสต์เฟสบุ๊คเพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงหลายครั้งในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมาได้เสนอแนวทางเร่งด่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง คือ
1.ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นของประเทศไทย มีความซับซ้อนกว่าต่างประเทศ เพราะน้ำมันดีเซลมีน้ำมันไบโอดีเซลผสม ในขณะที่แก๊ซโซฮอลล์มีเอทานอลผสม
2.ภาษี เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีท้องถิ่น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในปัจจุบันอยู่ในระดับวิกฤติเพราะต้นทุนน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งในสถานการณ์วิกฤติจำเป็นที่ต้องลงลึกในปัญหาในโครงสร้าง 2 ส่วนดังกล่าว