ทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์ เปิดจอง 5 วันเกลี้ยงสวน!

วันที่ 5 มิ.ย.65 เกษตรกรชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ต่างหันมาปลูกทุเรียนกันมากขึ้น หลังจากเกษตรกรรายอื่นปลูกมาแล้วประสบความสำเร็จ ตลาดมีความต้องการสูง เพราะเป็นทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่ของแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ นี่คือ สวนทุเรียนของนางวาสนา หวังดี อายุ 57 ปี เกษตรกร อ.โนนสุวรรณ เจ้าของสวนทุเรียน "วาสนา" มีเนื้อที่ปลูกทุเรียนเพียง 5 ไร่ แต่มียอดสั่งจองทุเรียนแล้วกว่า 300,000 บาท ที่เหลือเตรียมส่งตลาดจริงใจ ของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่สินค้ามีจำนวนจำกัด

นางสาวนา เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ปลูกต้นขนุน และทุเรียนพร้อมกัน บนพื้นที่ 5 ไร่ เมื่อต้นขนุนอายุครบ 4 ปี เก็บผลผลิต ขนุนขายได้ กิโลกรัมละ 5 บาท แต่ตอนนั้นทุเรียนยังไม่ให้ผลผลิต ประกอบกับต้นไม่สมบูรณ์ ส่วนผลผลิตขนุน เก็บหาบเร่ขายขนุนไปตามหมู่บ้าน ได้เงินมาเพียงเล็กน้อย ต่อมาสหกรณ์การเกษตรโนนสุวรรณ จึงเข้ามาช่วยเหลือ โดยหางบค่าใช้จ่ายเชิญประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน จาก จ.จันทบุรี มาสอนให้ความรู้แปลงต่อแปลง ทำให้เกษตรกรหลายรายที่ปลูกทุเรียนมีความรู้มากขึ้น ปรากฏว่าปีนี้ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ปลูกไว้ ได้ผลเปลือกบาง พูใหญ่ โดยเฉพาะเนื้อของทุเรียนที่นี่ มีเนื้อนุ่มเหมือนคัสตาร์ด กรอบหวานหอมอร่อย กว่าพื้นที่ปลูกที่อื่น 
 

เนื่องจาก อ.โนนสุวรรณ มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติอยู่ใต้ดิน อีกทั้ง ยังเป็นแหล่งภูเขาไฟเดิม ทั้งหมดที่ปลูกไว้ประมาณ 150 ต้น เปิดจองทางอินเทอร์เน็ต เพียง 5 วัน มีคนจองไว้ทั้งหมด ที่เหลือประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ จะส่งให้ตลาดจริงใจ ของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ไม่เพียงพอ เพราะท็อปส์ ต้องการให้เอาไปวางขายทั่วประเทศ ตอนนี้ได้เงินจากการจองแล้วกว่า 300,000 บาท
 
นายสิริไพบูลย์ นุศิริหาญ ที่ปรึกษาสหกรณ์ด้านการตลาดสหกรณ์การเกษตร โนนสุวรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เกษตรกร อ.โนนสุวรรณ จะปลูกผัก ผลไม้ อย่างอื่นทั่วไป ทุเรียนเป็นเพียงพืชตัวเลือก บางคนกล้า บางคนไม่กล้าปลูก แต่ตอนนี้มีเกษตรกร สนใจปลูกทุเรียนมากขึ้น ทั้งนี้ทางสหกรณ์ก็ต้องเตรียมรองรับแก้ปัญหาเอาไว้ หากมีปัญหาด้านการตลาด ส่วนหนึ่งเชื่อว่าทุเรียน ยังเป็นผลไม้ที่ตลาดทั้งไทย และต่างประเทศมีความต้องการสูงคิวภาพ//สภาพสวน//ลูกค้ามาดูทุเรียน//ผ่าพิสูจน์//เสียงเจ้าของสวน/เสียงที่ปรึกษาสหกรณ์