KTB - ส้มหล่นจากการปราบสลากฯ เกินราคา (7 มิ.ย. 65)
แอป “เป๋าตัง” ของ KTB คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังมาตรการปราบปรามสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาของภาครัฐ โดย KTB ถูกใช้เป็นช่องทางในการแก้ปัญหาผ่านการขายสลากฯผ่านแอป
ซึ่ง KTB จะได้รับค่าธรรมเนียมจากการขึ้นรางวัลสลากฯ อย่างไรก็ตามเราประมาณผลต่อกำไรสุทธิเพียงเล็กน้อยและราคาหุ้นไม่มีอัพไซด์ valuation สู่ TP ของเรา คงคำแนะนำ ถือ KTB ที่ TP 15.5 บาท
การปราบปรามสลากฯ เกินราคาทั่วประเทศ
สืบเนื่องจากผลของนโยบายการปราบปรามสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาทั่วประเทศของภาครัฐ ตำรวจได้ออกปราบปรามอย่างชัดเจนตั้งแต่ มี.ค. 2022 โดยตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ชื่อดังของประเทศอย่าง “มังกรฟ้า”, “กองสลากพลัส” และ “เสือแดงล็อตเตอร์รี่” ถูกกล่าวหาว่าทำให้ราคาสลากฯ สูงขึ้น รวมถึงขายเกินราคา อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ายังมีตัวแทนจำหน่ายสลากฯ กว่า 20 รายถูกตรวจสอบ
ถูกใช้เป็นช่องทางจำหน่ายสลากฯ ออนไลน์ของรัฐบาล
โควิดทำให้การใช้แพลตฟอร์มดิจิตัลของผู้บริโภคเร่งตัวขึ้น และแอปโทรศัพท์ “เป๋าตังค์” ของ KTB เป็นแอปที่โดดเด่นและได้ประโยชน์ในยุคนี้ โดยแอปฯ ให้บริการทั้งด้านธุรกรรมการเงิน อีกทั้งยังเป็นช่องทางของภาครัฐในใช้มาตรการต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ธนาคารของรัฐเช่น KTB เข้ามามีส่วนในประเด็นนี้ เนื่องจากถูกรัฐใช้เป็นช่องทางการขายสลากฯ ออนไลน์ผ่านแอปเป๋าตังค์ ซึ่งรัฐคาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการขายสลากฯเกินราคาได้ ทั้งนี้แอปให้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ตั้งแต่การจองซื้อสลากฯไปจนถึงการขึ้นเงินรางวัล โดย KTB จะได้รายได้จากการขึ้นเงินรางวัลโดยคิดค่าธรรมเนียม 1% ของมูลค่าเงินรางวัล (ไม่รวมอากรแสตมป์ 0.5%)
ผลบวกต่อกำไรสุทธิมีเพียงเล็กน้อย
จากจำนวนสลากฯ ทั้งหมด 100 ล้านใบ ที่มีมูลค่ารางวัลรวม 4.6 พันลบ. ในแต่ละงวด เราประเมินในกรณีที่ดีที่สุดคือ สลากฯ ขายออนไลน์ทั้งหมดและมีการขึ้นเงินรางวัลทั้งหมดผ่านแอปเป๋าตังค์ของ KTB เราคาด KTB จะได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มสลากฯ ออนไลน์ประมาณ 1.1 พันลบ. หรือคิดเป็น 4% ของกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่ามีสลากเพียง 5.2 ล้านใบขายผ่าน เป๋าตังค์ สำหรับงวดที่ 16 มิ.ย. 2022 สะท้อนว่าประโยชน์ที่ KTB ได้จริงจะต่ำกว่ากรณีที่ดีที่สุดอยู่มาก