EXIM​ BANKปล่อยกู้ดอกต่ำแบงก์เวียดนามหนุนSMEsไทยลงทุนCLMV

EXIM​ BANKปล่อยกู้ดอกต่ำแบงก์เวียดนามหนุนSMEsไทยลงทุนCLMV

EXIM​ BANKปล่อยกู้ดอกต่ำให้แบงก์รัฐเวียดนาม หนุนผู้ประกอบการไทยลงทุนเวียดนามและนักลงทุนเวียดนามซื้อสินค้าไทย พร้อมเปิดสาขาตัวแทนแห่งที่ 4 เมือง โฮจิมินห์ รองรับเศรษฐกิจโตในกลุ่มCLMV​

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ  ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM​ BANK)​เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนEXIM​ BANK ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามวันนี้(10มิ.ย.)ว่า การเปิดสาขาตัวแทนดังกล่าว เพื่อรองรับทัพนักลงทุนไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม ขณะเดียวกัน​ ได้ปรับกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อใหม่ ด้วยการปล่อยสินเชื่อให้กับนักลงทุนเวียดนาม ที่เป็นหุ้นส่วนนักลงทุนไทย ผ่านธนาคารของรัฐในเวียดนาม เพื่อความมั่นคง จากเดิมปล่อยสินเชื่อให้เฉพาะนักลงทุนไทยที่มีไปลงทุนในต่างประเทศเท่านั้น 

“การปรับกลยุทธ์ การให้สินเชื่อ เพื่อสร้างเครือข่ายในการธุรกิจแบบเติบโตไปด้วยกัน ส่วนเหตุผลการเริ่มต้นเวียดนาม เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่กำลังเจริญเติบโต ภูมิประเทศเชื่อมต่อประเทศจีน และมีความต้องการสินค้าไทย จึงเชื่อว่ารูปแบบนี้จะประสบความสำเร็จ และจะนำรูปแบบนี้ ไปปรับใช้กับกลุ่มประเทศอินโดจีนอื่น ทั้ง กัมพูชา ลาว  พม่า  ซึ่งธนาคารได้เปิดสาขาตัวแทนไปก่อนหน้านี้แล้ว”

 

ทั้งนี้​ ปัจจุบัน มีเอกชนไทย สนใจเข้ามาเจรจากับ เอ็กซิมแบงก์ เพื่อขอสนับสนุนการเงินหรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำราว 200 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี ซึ่งเอ็กซิมแบงก์จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอีในเวียดนาม 5 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง ส่วนเอกชนเวียดนามที่เป็นพันธมิตรกับนักลงทุนไทย และนำเข้าสินค้าจากไทยราว 2,000 ราย หากสนใจสินเชื่อ ก็ต้องติดต่อธนาคารของรัฐในเวียดนาม ที่ EXIM​ BANK​ ได้ปล่อยสินเชื่อให้

สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้ธนาคารของรัฐในเวียดนามนั้น เราปล่อยสินเชื่อในวงเงิน 100 ล้านเหรียญฯ ดอกเบี้ย 3.5% ถือว่าเป็นอัตราที่ผ่อนปรนมาก เนื่องจาก​ อัตราดอกเบี้ยในระบบของเวียดนามอยู่ที่ 12% แต่มีเงื่อนไขการปล่อยเชื่อ คือ เอกชนเวียดนาม จะต้องซื้อสินค้าไทยคิดเป็น 50% ของมูลค่าสินเชื่อ ดังนั้น​ เชื่อว่าจะจูงใจให้เอกชนเวียดนามมายื่นขอสินเชื่อจากธนาคารัฐเวียดนาม 

ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของธนาคารในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 ธนาคารได้ขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในเวียดนามมากที่สุดในตลาด CLMV  โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 13,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อคงค้างใน CLMV และ New Frontiers ทั้งหมด 51,554 ล้านบาท

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน การส่งออกของไทยไปเวียดนามเน้นการตอบสนองความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่การลงทุนของไทยในเวียดนามกระจายอยู่ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ พลังงาน นิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เกษตรและประมง ธนาคาร ก่อสร้าง ค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม ขนส่ง โลจิสติกส์ และธุรกิจโฆษณา โดยไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม

เขากล่าวด้วยว่า​ โอกาสใหม่ๆ ของผู้ประกอบการไทยยังมีอยู่อีกมากในเวียดนาม เนื่องด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคนและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเกือบ 7% ต่อปีโดยเฉลี่ย แม้ในวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมายังขยายตัวได้ที่ระดับเกือบ 3% ไทยและเวียดนามเป็นพันธมิตรทางการค้ามาช้านานและมีที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของ SMEs ไทยในการส่งออก โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มผู้บริโภคเวียดนามตามช่วงอายุ ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย โดยผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นลำดับ ประชากรวัยทำงานมีกำลังซื้อสูงขึ้นและชอบชอปปิ้งออนไลน์ ทำให้ตลาด E-Commerce โตถึง 35% ต่อปี ขณะเดียวกัน เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติรวมทั้งไทย โดยมีนครโฮจิมินห์เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า บริการ การเงินการธนาคาร เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ศูนย์กลางการคมนาคม เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและท่าเรือไซง่อนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เศรษฐกิจของโฮจิมินห์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และขยายตัวสูงกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของทั้งประเทศ