วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 มิ.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจีนประกาศล็อคดาวน์บางส่วนของเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งผ่อนมาตรการไม่กี่วัน
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด เนื่องจากตลาดกังวลอุปสงค์ชะลอตัว หลังบางส่วนของเซี่ยงไฮ้เริ่มกลับมากำหนดมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยชาวเขตหมินหังได้รับคำสั่งให้อยู่บ้านเป็นเวลาสองวันเพื่อควบคุมความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ และจะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับประชากรทั้งหมดในเขตหมิงหัง ในวันเสาร์นี้
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 354,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 16.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ม.ค. 63 โดยกำลังการผลิตโดยรวมของโรงกลั่นในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 94.2% จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน
+ กำลังการผลิตของโรงกลั่นทั่วโลกตึงตัว และไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามต้องการ เนื่องจากการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลก แม้ว่าสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ จะร่วมกันระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อช่วยลดความร้อนแรงของราคาน้ำมัน แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นช้ามาก
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 218.2 ล้านบาร์เรล รวมไปถึงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะ จีนและศรีลังกา
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นของญี่ปุ่นและไต้หวัน อีกทั้งน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 109 ล้านบาร์เรล