"ปรมินทร์" ชี้ ขาลงตลาดคริปโทฯ ไม่จบ 1-2 เดือนนี้ - บิตคอยน์แตะ 1.9 หมื่นดอลล์

"ปรมินทร์" ชี้ ขาลงตลาดคริปโทฯ ไม่จบ 1-2 เดือนนี้ - บิตคอยน์แตะ 1.9 หมื่นดอลล์

"ปรมินทร์ อินโสม" ชี้ ตลาดคริปโทฯ ขาลง ยังไม่จบช่วง 1-2 เดือน เหตุ เร่งขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ - จาก technical Chart ระบุ อีเธอเรียม มีโอกาสแตะ1,200 - 1,400 ดอลลาร์ - บิตคอยน์ แตะ 1.9 - 2.1 หมื่นดอลลาร์ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ 

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang ผู้นำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และบล็อกเชนให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ราคาบิตคอยน์ (BTC) ทิ้งดิ่งหนักจนไปแตะที่ 23,839 ดอลลาร์  และอีเธอเรียม (ETH) 1,215 ดอลลาร์  (13 มิ.ย.2565 เวลา 16.51 น.) ปัจจัยหลักคือ เรื่องตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของเดือนพ.ค. ที่สหรัฐประกาศออกมาสูงเกินคาดที่ 8.6% ซึ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี 

สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น จากเมื่อ 2 เดือนก่อน อยู่ที่ประมาณ 100 - 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขึ้นมาอยู่ที่ 105 - 120 ดอลลาร์ ในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา รวมถึงราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย จนทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้วันพุธ ที่ 17 มิ.ย.(หรือเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
 

นักวิเคราะห์ของ Barclay Bank ซึ่งเป็นสาย extreme สุดด้านคาดการณ์เงินเฟ้อขณะนี้ คาดการณ์ว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยมากถึง +0.75% ในการประชุมคืนวันพุธนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทั่วไปยังคงมองว่า เฟด จะยังคงขึ้นที่ +0.5% “สิ่งสำคัญที่จะต้องจับตามองคือ ถ้อยแถลงของเฟด ที่มีต่อสถานการณ์เงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปีนี้ ว่า เฟด จะเดินหน้ามาตรการอะไรต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ได้” 
 

อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อมาตรการของจีน ที่เริ่มกลับมาใช้ข้อบังคับเรื่องการป้องกันไวรัสระบาดอีกครั้ง หลังจากประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการด้านอุปสงค์ หรือ Demand-side 

 

ส่วนเหตุผลทางด้าน Technical Chart นั้นในช่วง 1 - 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่า ราคา ETH อยู่แถว 1,800 - 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลงมาทดสอบ ที่ 1,200 - 1,400 ดอลลาร์ ได้ไม่ยากในเวลาอันใกล้ และ BTC เองก็อาจจะลงไปสู่ระดับ 19,000 - 21,000 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ 

“นั่นหมายถึงเงินเฟ้อ ก็ยังคงสูงขึ้นไม่เปลี่ยนไปในช่วง 1 - 3 เดือนนี้แน่นอน ดังนั้น FED ก็ยังต้องสู้เงินเฟ้ออย่างก้าวร้าวต่อไป ด้วยเหตุนี้ตลาดขาลงของ crypto ก็คงยังไม่จบจริงในเวลา 1-2 เดือนนี้แน่นอน และถึงแม้ว่าจะเป็นขาลง ตลาดก็ไม่ได้วิ่งลงเป็นเส้นตรงดิ่งลงตลอดเวลา บางทีก็เป็นลักษณะวิ่งลงแบบซิกแซ็ก ดังนั้น ไม่ควร All-in ในครั้งเดียว ต้องจัดการเรื่อง allocation risk หรือการจัดการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตให้เหมาะสมด้วย” 

นายสรัล ศิริพันโนน ซีอีโอ Satang Corporation  กล่าวว่า ขาลงของทั้ง BTCและ ETH ยังไม่จบ เพราะทั้งมุมมองของเฟดขณะนี้ และ Technical Chart ยังไปช่วยหนุนขาลงอยู่ สิ่งที่พอจะช่วยนักลงทุนในการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ได้ก็คือ 1.) อ่านใจและวิธีคิดของเฟดให้ออก ผ่านมุมมองการวิเคราะห์ที่เราหาได้ไม่ยากใน internet   ทั้งนี้ต้องถามตัวเองเสมอด้วยว่า บทวิเคราะห์ที่อ่านนั้นมองข้ามอะไรไปบ้าง ณ ตอนนี้ เฟด คงสนใจว่า เงินเฟ้อจะเป็นอย่างไรผ่าน CPI index หรือดัชนีราคาของผู้บริโภค และราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น   

2.อ่านกราฟให้ออก ไม่ใช่แค่มอง technical chart ของ crypto เท่านั้น แต่ต้องมองไปที่ กราฟราคาน้ำมัน ว่าจะไปอย่างไรด้วย เพราะถ้าตอนนี้ยังอยู่แถว 117 - 120 ดอลลาร์ ยังคงมี trend ขาขึ้นซึ่งสามารถวิ่งไปถึง 130 - 150 ดอลลาร์ ได้ไม่ยาก

ส่วนตลาดตอนนี้น่าลงทุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นนักเทรดประเภทใด ถ้าเป็นสายทำกำไรก็อาจทำได้ แต่ต้องระมัดระวัง เรื่องการลงแบบซิกแซ็กขึ้นๆ ลงๆ ส่วนถ้าเป็นกลุ่มลงทุนระยะกลาง 1 - 3 เดือน การลงทุนใน Stablecoin ที่มีสินทรัพย์หนุนหลังก็ยังพอให้ผลตอบแทนได้ในท่ามกลางสภาวะเงินดอลลาร์แข็งค่าขณะนี้ หากเป็นกลุ่มลงทุนระยะยาวหรือ DCA ก็สามารถที่จะซื้อเก็บได้ทุกๆ 2 - 3 เดือน ไม่ถึงกับต้องนั่งเฝ้าซื้อเก็บทุกสัปดาห์

 

# # #

Satang Pro เป็นกระดานเทรดแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลระดับโลก ISO27001 และ ISO27701 ตลอดจนได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) จากกระทรวงการคลัง และกำกับดูแลโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์