วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 มิ.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากอุปทานในตลาดที่ยังคงตึงตัว
+/- ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะอุปทานตึงตัวในตลาด อันเนื่องมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง เนื่องจากบางประเทศประสบปัญหาการผลิต นอกจากนี้ การที่สหภาพยุโรป (EU) แบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจะยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น
+ ปริมาณน้ำมันยังคงตึงตัวในตลาด โดยได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัสยังคงไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง เนื่องจากบางประเทศประสบปัญหาการผลิต ในขณะที่ผู้ค้ากำลังจับตาอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อพิพาทแรงงานในลิเบีย นอร์เวย์ และเกาหลีใต้ต่อการส่งออกและการบริโภคน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มอุปทานในตะวันตก ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก วางแผนที่จะเปลี่ยนเส้นทางน้ำมันดิบบางส่วนจากจีนไปยังยุโรปในเดือนกรกฎาคม
- ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการที่กรุงปักกิ่งประกาศล็อกดาวน์เขตเฉาหยางซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรมากที่สุดของปักกิ่ง และสั่งปูพรมตรวจเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้คาดการณ์ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากจีนคาดจะเพิ่มการส่งออกมากขึ้น หลังมีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในอียิปต์
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากไต้หวัน ขณะที่อุปสงค์จากเวียดนามมีแนวโน้มทรงตัว หลังรัฐบาลลดภาษีการนำเข้าเพื่อชะลอผลกระทบของราคาที่สูงขึ้น