Ramsay Hunt Syndrome ความเจ็บป่วยที่ไม่ทันตั้งตัว !!
อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกของ "จัสติน บีเบอร์" เรียกว่า "แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม" (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นอาการเจ็บป่วยแทรกซ้อนโดยตรงจาก "โรคงูสวัด" ซึ่งเกิดจาก Varicella Zoster Virus (VZV) ซึ่งเป็นกลุ่มไวรัสเดียวกันกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส
โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงและมักมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เช่น กรณีของนักร้องชื่อดัง จัสติน บีเบอร์ วัย 28 ปี ที่ล่าสุดเกิดอาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ทำให้ต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อรักษาตัว
อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกของจัสติน บีเบอร์ เรียกว่า แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นอาการแทรกซ้อนโดยตรงจากโรคงูสวัด ซึ่งเกิดจาก Varicella Zoster Virus (VZV) ซึ่งเป็นกลุ่มไวรัสเดียวกันกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม จะเกิดขึ้นเมื่อเชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งเป็นเส้นประสาทใบหน้าใกล้หู และเป็นเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า เมื่อไวรัสจู่โจมที่บริเวณนี้ จึงทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง เกิดอาการใบหน้าอัมพาตและอาจสูญเสียการได้ยิน
ในกรณีของจัสติน บีเบอร์ นอกจากจะไม่สามารถบังคับใบหน้าข้างหนึ่งได้แล้ว ยังไม่สามารถกระพริบตาข้างที่ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้กระจกตาเกิดความเสียหาย นอกจากนั้น แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม ยังก่อให้เกิดอาการอื่นๆ เช่น ผื่นแดงและตุ่มน้ำรอบหู ปวดหู การรับรู้รสชาติเปลี่ยนแปลงหรืออาจสูญเสียการรับรู้รสชาติ และในบางรายอาจสูญเสียการได้ยิน นอกจากนี้ หาก Varicella Zoster Virus ที่เป็นไวรัสก่อโรคกลุ่มงูสวัดและอีสุกอีใสเข้าทำลายที่ระบบอื่น เช่น แนวเส้นประสาทสมองที่ 5 ก็อาจจะทำให้ตาบอดได้ หรือหากเชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมที่อวัยวะภายในต่างๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการที่แตกต่างออกไป เช่น ปอดอักเสบ ตับอักเสบ ไข้สมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม นี้ หากเส้นประสาทไม่ได้เสียหายรุนแรงและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภายใน 3 วันหลังจากได้รับเชื้อ ก็จะสามารถบรรเทาลงและหายได้ภายใน 2 - 3 สัปดาห์ แต่หากเส้นประสาทได้รับความเสียหายรุนแรงอาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปีในการรักษา และจากการที่แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม เกิดจากไวรัสก่อโรคอีสุกอีใส จึงสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกันกับโรคอีสุกอีใส เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้สามารถหลบซ่อนบริเวณปมประสาทได้หลายปี เมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ไวรัสจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของโรคอีสุกอีใสหรืองูสวัด และอาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่าง แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม อีกครั้งได้
แม้อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม ที่เป็นภาวะแทรกซ้อนโดยตรงของโรคงูสวัด มักเกิดกับผู้สูงอายุ แต่ไม่ใช่ว่าคนอายุน้อยจะไม่เสี่ยงที่จะเผชิญกับโรคนี้ ดังเช่นกรณีของ จัสติน บีเบอร์ หากร่างกายอ่อนแอ และไปเจอกับไวรัสเข้า คนอายุน้อยก็สามารถติดเชื้อและได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพ แต่ยังรวมถึงการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพด้วย และถึงแม้จะสามารถป้องกันการเป็นโรคงูสวัดได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่ในอากาศยังมีไวรัสอีกมากมายหลายสายพันธุ์ที่พร้อมจะโจมตีเรา ซึ่งส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและความมั่งคั่งได้
สำหรับ จัสติน บีเบอร์ นักร้องระดับโลก การเลื่อนหรือยกเลิกคอนเสิร์ต แม้จะสร้างความเสียหาย แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่ากับการรักษาอาการป่วยให้หาย แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่บุคคลระดับโรคที่มีทรัพย์สินมหาศาล ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและการสร้างรายได้การสร้างความมั่งคั่งแล้ว ยังกระทบต่อความมั่งคั่งที่เก็บสะสมมา เพื่อใช้ในการรักษาตัวด้วย ดังนั้น ในเมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยได้ แต่เราสามารถปกป้องความมั่งคั่งของเราได้ด้วยการทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมเพียงพอในการรักษาตัว
หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected] I บทความโดย โดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT Wealth Manager ธนาคารทิสโก้