กรุงไทยมองค่าเงินบาทระยะสั้นผันผวนอ่อนค่ากว่า 35 บาทต่อดอลลาร์
กรุงไทยมองแนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้นผันผวนในลักษณะอ่อนค่ากว่า 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปลายปีจะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยจะได้รับปัจจัยหนุนเม็ดเงินไหลเข้าจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เงินปรับค่าแข็งมาต่ำกว่า 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)กล่าวถึงแนวโน้มค่าเงินบาทว่า เรามองว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เทียบดอลลาร์สหรัฐในระยะสั้น อาจจะอ่อนค่าไปมากกว่า 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนระยะยาว 3-6 เดือน จะปรับค่าแข็งขึ้นได้ หลังจากที่มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้นจากการท่องเที่ยว โดยมองว่า อาจจะปรับลดลงต่ำกว่า 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เขากล่าวว่า ปัจจุบัน การที่เงินบาทอ่อนค่าเลย 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการสะท้อนความผันผวนของตลาด เนื่องจาก เราเห็นภาพเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ตลาดทุนก็มีความผันผวนสูง ตลาดดิจิทัลก็มีมูลค่าลดลง มองว่า ตรงนี้ เป็นความผันผวนระยะสั้นที่ 34 บาทปลายๆถึง 35 บาทและอาจจะอ่อนไปกว่านี้ได้อีกนิดหน่อย โดยอาจจะไปอยู่ที่ 35 บาทกลางๆ เพราะความผันผวนสูง
อย่างไรก็ดี ความผันผวนระยะสั้น อาจมองไปถึงปลายไตรมาสสามหรือปลายปีนี้ แต่ในเชิงของภาพแม็คโครเชื่อว่า ค่าเงินบาทยังมีปัจจัยพื้นฐานที่จะปรับตัวขึ้นมาซัพพอร์ตได้ นั่นก็คือ รายได้ที่ประเทศไทยได้รับจากการท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมองว่า นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศอย่างต่ำ 5 ล้านคน โดยครึ่งปีแรกเข้ามาแล้วประมาณ 1 ล้านคน
“ส่วนใหญ่อย่างแบงก์ชาติก็ประมาณการนักท่องเที่ยวว่าจะเข้ามา 6 ล้านคน บางสำนักอาจจะให้ 7 ล้านคน หรือมากกว่านั้น ดังนั้น ครึ่งปีหลังน่าจะได้กว่า 5-6 ล้านคน ถ้าคนหนึ่งใช้จ่าย 5-6 หมื่นบาท เราจะมีรายได้เข้าประเทศ 3 แสนล้านบาทเรียกว่า เป็นเม็ดเงินไหลเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งครึ่งปีแรกเราไม่ได้ตรงนั้น เมื่อมีเม็ดเงินไหลเข้ามามาก จะช่วยให้เงินบาทมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น”
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์