วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 มิ.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนักลงทุนหวั่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ฉุดอุปสงค์ชะลอตัว
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (Fed) เพื่อมุ่งลดภาวะเงินเฟ้ออันเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และกดดันความต้องการใช้น้ำมันในตลาดให้ชะลอตัวลง ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนผู้ถือครองเงินสกุลอื่นสนใจในการลงทุนน้ำมันดิบลดลง
-/+ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการระงับการจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซิน 18.4 เซนต์ต่อแกลลอนชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง หลังปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันเฉลี่ยของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มสูงขึ้นแตะ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 นับตั้งแต่ต้นปี 2565
- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มิ.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.6 ล้านบาร์เรล และสำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของอินเดียในเดือนก.ค. ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดในจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาค ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นภายหลังการเปิดประเทศในหลายประเทศ