ผันผวนรอปัจจัยใหม่ (วันที่ 23 มิถุนายน 2565)

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,550 - 1,570 จุด ภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยยังคงถูกแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลให้ Fund flow ต่างชาติไหลออก ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงสัญญาณเทคนิค Oversold จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับดีดตัวขึ้นได้

22 – 23 มิ.ย. ติดตาม FED แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาฯ

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          AOT AAV BA CENTEL ERW SHR AWC MINT มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ

         GPSC BGRIM GULF SCC EPG TASCO KEX อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบชะลอตัว

         TU ASIAN CFRESH GFPT XO กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

GPSC (ปิด 65 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72 บาท) YTD ราคาหุ้นร่วงหนักสะท้อนต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว วันนี้น้ำมันดิบร่วงแรงจึงเป็น Sentiment บวก ประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP สูง

EPG (ปิด 9.6 ซื้อ/เป้า 16 บาท) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรงราว 3.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเนื่องจาก EPG มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 60% ของรายได้รวม

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

            PTT (ปิด 33.75 ซื้อ/เป้า 47)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-/-) ประธานเฟดสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดแต่ยังไม่มากพอ: สะท้อนผ่านดัชนีดาวโจนส์ที่ยังผันผวน ช่วงแรกของการซื้อขายดัชนีอ่อนตัวกังวลภาวะ ศก. ถดถอย แต่จากนั้นค่อยๆ ฟื้นตัวหลัง ประธานเฟดขึ้นกล่าวแถลงการณ์ ต่อวุฒิสภาฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดระบุการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไม่ทำให้ ศก. สหรัฐ แต่ปัจจัยบวกดังกล่าวยังไม่มากพอเนื่องจากดาวโจนส์ยังปิดตลาดในแดนลบ โดยลดลง 47 จุด ปิดที่ระดับ 30,483 จุด

(-) น้ำมันดิบร่วงแรงราว 3 ดอลลาร์ ตลาดยังกังวล ศก. ถดถอยกระทบดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.33$ (-3%) ปิดที่ระดับ 106 $/bbl เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลกับภาวะ ศก. ถดถอย ประกอบกับมีข่าวว่า ปธ.โจ ไบเดน เรียกให้ผู้บริหารบริษัทน้ำมันรายใหญ่ 7 แห่งในสหรัฐเข้าพบเพื่อหาทางลดราคาน้ำมันในประเทศให้ลดลง

(+/-) คืนนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐวัดความแกร่งของ ศก. หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย: สหรัฐและยุโรปจะรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของเดือน มิ.ย.ในคืนวันนี้ตัวเลขดังกล่าวจะช่วยบ่งชี้ถึงสัญญาณ ศก. ว่าจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่เฟดและธนาคารกลางต่างๆ เร่งขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้หรือไม่ เบื้องต้น Consensus คาดตัวเลขจะอยู่ที่ระดับ 56 ลดลงเล็กน้อยจาก 57 ในเดือน พ.ค.