อ่อนตัว แนะซื้อ SPRC AGE CRC (29 มิ.ย. 65)

ซึ่งเป็นจุดที่ตลาดมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น และโมเมนตัมลบวันนี้ คือ การปิดสัญญาอนุพันธ์สิ้นงวดบัญชี 2Q22E วันนี้ (นักลงทุนต่างชาติถือครองโพสิชั่นล่าสุด Short Set 50 Infdex Future สูงถึง - 95,990 สัญญา MTD) เราแนะนำ ขายทำกำไร  ประเด็นที่ต้องติตตาม ได้แก่ สุนทรพจน์ประธานเฟด Jerome Powell และประธานเฟด  สาขา  Cleveland รวมถึงรายงาน 1Q22 GDP ของสหรัฐฯ (ครั้งสุดท้าย) และเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของเยอรมนี

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF AWC TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT MEGA MINT KTB MAJOR (ขาย CKP ซื้อ CRC) และพอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH BAFS SAT WICE PORT TOG (ขาย SIS)

+ Window Dressing: COM7 ACE HMPRO LH AMATA BAM CRC TIDLOR RS SINGER BEC WHA GUNKUL BPP RATCH PLANB JMT RBF TTB STEC CPALL

+ 2Q22E Earnings Play: TIDLOR PTT TOP CPALL CRC BEC KCE MINT BDMS VGI SPRC BEM MAJOR PTTEP และ OSP

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท: TFG GFPT ASIAN TWPC NER SAPPE KCE

+/- เงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด: -กลุ่ม Inflation Hedging (Commodities): PTTEP TOP BANPU AGE KSL +กลุ่ม Anti-Commodities Play: SCC SCGP TASCO GULF GPSC KCE DELTA

+/- COVID-19 สายพันธุ์ BA.4, BA.5: +กลุ่มการแพทย์ กลุ่มฉีดวัคซีนและเครื่องมือแพทย์: BCH CHG IMH STGT -กลุ่มเปิดเมืองเปิดประเทศ: CRC CPALL MAKRO HMPRO BH BDMS SHR SPA MINT ERW AOT

+/- SET50 / SET100 Index (มีผลวันที่ 1 ก.ค.-30 ธ.ค. 2022): +JMART JMT BLA (SET50) FORTH ONEE PSL TIPH (SET100) –RATCH STGT COM7 (SET50) BPP RS SIRI TVO (SET100)

 

 

ปัจจัยลบ

- USA: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100.0 จากระดับ 103.2 ในเดือน พ.ค. โดยผู้บริโภคสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้เกิดแรง เทขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทำให้มีโอกาสเป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นไทย

 

ปัจจัยบวก

         + Window Dressing: แรงซื้อเก็งกำไรการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันในประเทศก่อนสิ้น 2Q22 คาดเป็นโมเมนตัมบวกระยะสั้น โดยคาดว่าจะซื้อในหุ้นที่ร่วงแรง แต่กำไร 2Q22E เติบโตสูง รวมถึงยังคงมี Upside สูงกว่า 15% (ดูรายชื่อหุ้นในกลยุทธ์การลงทุน)

        + China: จีนเตรียมลดระยะเวลากักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถำนที่รัฐบำลจัดหำให้ เพื่อป้องกัน COVID-19 ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7 วัน จำกนั้นให้อยู่บ้ำนต่อเพื่อสังเกตอำกำรอีก 3 วัน ซึ่งเป็นพัฒนำกำรเพิ่มเติมต่อสถำนกำรณ์ COVID-19 ในจีน หำกสถำนกำรณ์ดีขึ้นตำมลำดับ อำจจะทำให้จีนมีโอกำสเปิดประเทศและเป็นบวกต่อกำรท่องเที่ยวของไทย

 

ประเด็นสำคัญ

        - EU: Economic Sentiment เดือน มิ.ย. โดย Consensus คาดลดลงจาก 105 สู่ระดับ 103

        - Germany: ประมาณการเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. คาดอยู่ที่ 8.0% (Vs เดือน พ.ค. 7.9%)

        - USA: รายงาน 1Q22 GDP โดย Consensus คาด -1.5% QoQ (Vs 4Q21 ที่ 6.9% QoQ)

        - USA สุนทรพจน์ประธานเฟด Jerome Powell และ Loretta Mester ประธานเฟด สาขา Cleveland (Voter)

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3: ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นตลอดการซื้อขาย และสามารถปิดใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1,594.47 จุด +14.27 จุด วอลุ่มซื้อขาย 6.03 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +2.19% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +1.57% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสำร +0.84% กลุ่มพาณิชย์ +0.80% หุ้นบวก >4% SELIC ITD SPRC AAV BCP AFC TWP TRC AGE SEAOIL NWR หุ้นลบ >4% CPH CPR CPL PRG ADB

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA -1.56% S&P500 -2.01% NASDAQ -2.98% นำลงโดยกลุ่มค้าปลีก กลุ่มเทคโนโลยี หลังข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 98.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 (Vs คาด 100.4 และเดือน พ.ค. 103.2) สร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.64% DAX +0.35% FTSE +0.90% นำขึ้นโดยกลุ่มสินค้าหรูหรา หลังจีนผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุม COVID-19 และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน

+/- น้ำมันปิดบวกเป็นวันที่สาม แต่ทองคำปิดลบ: WTI +USD2.19 ปิดที่ USD111.76/บาร์เรล Brent +USD2.89 ปิดที่ USD117.98/บาร์เรล กังวลอุปทานตึงตัว หลังมีข่าวว่าซาอุฯ และ UAE อาจไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้น เพราะใกล้เต็มระดับศักยภาพแล้ว และการประกาศของกลุ่ม G7 ที่ยกระดับกดดันภาคพลังงานของรัสเซียเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ส่วนราคาทองคำ -USD3.60 ปิดที่ USD1,821.20/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของสกุล USD +0.54% และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าที่คาด

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนเตรียมลดระยะเวลากักตัวนักท่องเที่ยวต่างชำติในสถานที่รัฐบาลจัดหาให้ เพื่อป้องกัน COVID-19 ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 7 วัน จากนั้นให้อยู่บ้านต่อเพื่อสังเกตอาการอีก 3 วัน จากที่เคยบังคับให้อยู่บ้าน 7 วัน

+ Thailand: ครม. เห็นชอบให้ทำเหมืองแร่โพแทช จังหวัดอุดรธานี และรับทราบผลการดำเนินงานของบริษัท เอเชีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หลังได้รับสิทธิสำรวจแร่โพแทช เพื่อดำเนินการขอประทานบัตรจากกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป ซึ่งหากเหมืองแร่โพแทชเปิดดำเนินการได้ คาดว่าจะสามารถสกัดโพแทชเซียมคลอไรด์ได้ 2 ล้านตัน/ปี ลดการพึ่งพานำเข้าแร่โพแทช เพื่อใช้ผลิตปุ๋ยจากต่างประเทศได้ จากปัจจุบันไทยนำเข้าแร่โพแทช 800,000 ตัน/ปี มีมูลค่านำเข้าสูงถึง 7,600-10,000 ล้านบาท

+ USA: ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐฯ ได้เริ่มชะลอตัวในเดือน เม.ย. ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 20.4% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าระดับ 20.6% ในเดือน มี.ค. ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 21.1% ในเดือน มี.ค. อย่างไรก็ดี มีเพียง 9 ใน 20 เมือง ที่รายงานราคาบ้านเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เมืองส่วนใหญ่ใน 20 เมือง รายงานการเพิ่มขึ้นของราคาบ้าน Consensus ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มชะลอตัวลงจากการที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านและราคาบ้านปรับตัวลง ขณะที่สต็อกบ้านเริ่มเพิ่มมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: JMT JMART KCE BCH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SPRC AGE CRC

Derivatives: แนะเปิด Short S50M22 เมื่อดีดตัวจบในวัน