’หอการค้าไทย-จีน’ ห่วงพลังงานพุ่งดันสินค้าแพง

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า หอการค้าไทย-จีน ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส3/2565จากสมาชิกหอการค้าไทยจีน จำนวน 325คน ระหว่างวันที่16-24มิ.ย.2565 พบว่า ส่วนใหญ่ 76 % มีความกังวลกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อของชาติมหาอำนาจ และราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น 
รองลงมากังวลเรื่องราคาอาหารโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและความผันผวนของตลาดการเงินขณะที่ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดนั้นได้คลายความกังวลไปมากจากสถานการณ์ที่คลี่คลายซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีมาต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ทั้งนี้จากราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่สอง ส่วนใหญ่เห็นว่า ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบในการประกอบธุรกิจถึง10-20 % ซึ่งหากสถานการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้าราคาน้ำมันและวัตถุดิบยังคงสูงขึ้นธุรกิจส่วนใหญ่จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างแน่นอน
เมื่อสอบถามถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศจีน

ในระยะที่ผ่านมารัฐบาลจีนมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยผู้ให้ข้อมูล 60 % คาดว่าสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะต้องใช้เวลามากกว่าอีก 6 เดือนจากวันนี้ขณะที่ 34.5% คาดว่าต้องใช้เวลาระหว่าง 3-6 เดือนจากนโยบายปลอดโควิดของจีนนั้นที่ทำให้เกิดการปิดเมืองชั่วคราว ซึ่ง ผู้ให้ข้อมูลให้ข้อคิดเห็นว่า นโยบายดังกล่าว มีผลต่อการส่งออกของประเทศไทยไปยังประเทศจีน โดยที่ 48%ของผู้ให้ข้อมูลระบุว่ามีผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่คาดว่า การส่งออกของไทยจะไปจีนจะเพิ่มขึ้น ในไตรมาส 3 
ในส่วนของการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน พบว่า 44% ของผู้ให้ข้อมูล คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเยือนประเทศไทยในไตรมาสแรกของปี 2566ในขณะที่16%ของผู้ให้ข้อมูลคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมายืนเมืองไทยก่อนสิ้นปี 2565 ส่วนผู้ให้ข้อมูลที่เหลือคาดว่าต้องรอจนหลังไตรมาสที่สองของปี 2566ที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง และจากนโยบายผ่อนปรนมาตรการโควิดก่อนเข้าประเทศ จะทำให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นต้องใช้เวลา 3-6 เดือน 
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ผลสำรวจการคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ของไทยโดยรวม ในไตรมาสที่3เมื่อเทียบกับไตรมาสปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่ เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ขณะที่ 25 % เห็นว่า เศรษฐกิจจะทรงๆ 
มีเพียง  20% ที่เห็นว่า  เศรษฐกิจ ไตรมาสที่ 3 จะชะลอตัวลงอีก
       ทั้งนี้ภาคธุรกิจที่ยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสหน้า คือ ธุรกิจการท่องเที่ยว พืชผลการเกษตร ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจออนไลน์