“ยกเลิกไทยแลนด์พาส” วันแรก 1 ก.ค.65 นักท่องเที่ยวเข้าไทยพุ่ง ทะลุ 4 หมื่นคน!
“ททท.” เผยวันแรกของการ “ยกเลิกไทยแลนด์พาส” 1 ก.ค.2565 ยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยพุ่ง ทะลุ 4 หมื่นคน ฟื้นตัวดีอย่างเห็นได้ชัดจากเดือน มิ.ย.ที่เดินทางเข้าไทยระดับ 2.5-3 หมื่นคนต่อวัน ดันยอดนักท่องเที่ยวสะสมเป็น 2,166,149 คนแล้ว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา เป็น "วันแรก" ของการเริ่ม “ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส” (Thailand Pass) หลังรัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 41,823 คนในวันดังกล่าว
โดย 5 อันดับแรกที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด ส่วนใหญ่เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับไทย ได้แก่
- มาเลเซีย 8,586 คน
- สปป.ลาว 4,068 คน
- อินเดีย 3,659 คน
- กัมพูชา 2,739 คน
- สิงคโปร์ 2,261 คน
ทั้งนี้เมื่อจำแนกเป็นรายด่าน พบว่าเดินทางเข้า
- สนามบินสุวรรณภูมิมากเป็นอันดับ 1 จำนวน 19,342 คน
- รองลงมาคือสนามบินภูเก็ต 4,713 คน
- สะเดา 3,566 คน
- สนามบินดอนเมือง 3,247 คน
- หนองคาย 1,956 คน
ถือเป็นการเพิ่มขึ้นจากสถิติตลอดเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยระดับ 25,000-30,000 คนต่อวัน หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทาง 1 มิ.ย.2565 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย “ไม่ถูกกักตัว"
“กระทั่งรัฐบาลประกาศยกเลิกไทยแลนด์พาส มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป ช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวเหมือนตอนก่อนโควิด-19 ระบาด ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยพุ่งอย่างเห็นได้ชัด ทะลุระดับ 40,000 คนต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจอสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 จากภาวะปกติก่อนเกิดวิกฤตินี้ ประเทศไทยเคยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ย 100,000 คนต่อวัน”
สำหรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-1 ก.ค.2565 มีจำนวน 2,166,149 คน
5 อันดับแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสูงสุด มีดังนี้
1.อินเดีย 237,865 คน
2.มาเลเซีย 205,350 คน
3.สิงคโปร์ 129,632 คน
4.สหราชอาณาจักร 126,637 คน
5.สหรัฐ 109,177 คน
ทั้งนี้ เมื่อดูเฉพาะสถิติช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสะสม 2,124,326 คน
10 อันดับแรกที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด มีดังนี้
1.อินเดีย 234,206 คน
2.มาเลเซีย 196,764 คน
3.สิงคโปร์ 127,371 คน
4.สหราชอาณาจักร 125,284 คน
5.สหรัฐ 107,544 คน
6.เยอรมนี 97,457 คน
7.ออสเตรเลีย 79,582 คน
8.กัมพูชา 74,825 คน
9.ฝรั่งเศส 73,654 คน
10.รัสเซีย 70,762 คน