วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (7 ก.ค. 65)

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลงต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวหนักจนเข้าสู่ภาวะถดถอยทั่วโลก ส่งผลกระทบให้ความต้องการใช้น้ำมันหดตัวลง ขณะเดียวกันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องจนถึงปีหน้า

- ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีน หลังจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ให้เข้มงวดอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในหลายเมืองสำคัญของประเทศ รวมถึงนครเซี่ยงไฮ้ ประกอบกับพบการระบาดคลัสเตอร์ใหม่ที่ค่อนข้างเร็วของโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.5 เป็นครั้งแรกในเมืองซีอาน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

+ ศาลรัสเซียมีคำสั่งให้ธุรกิจแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ซึ่งส่งน้ำมันดิบทางท่อส่งจากคาซัคสถานผ่านทะเลดำเข้ามายังเมืองโนโวรอสซีสค์ทางภาคใต้ของรัสเซีย ระงับการดำเนินการชั่วคราว 30 วัน เนื่องจากมีปัญหาน้ำมันรั่วไหล สร้างความวิตกด้านอุปทานน้ำมันทั่วโลก 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่อาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว หลังการเปิดพรมแดนของหลายประเทศ 

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาค ประกอบกับปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนที่ปรับสูงขึ้น