ขาดปัจจัยใหม่ (วันที่ 7 กรกฎาคม 2565)
ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดบวกเล็กน้อย ภาพรวมยังผันผวนโดยเฉพาะภาคเช้าดัชนีร่วงกว่า 10 จุด จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มน้ำมันตามทิศทางทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ร่วงแรงกว่า 9$/bbl
อย่างไรก็ตาม ดัชนีมี Technical Rebound และมีแรงซื้อหุ้นที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบลง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า ช่วยหนุนดัชนีพลิกปิดบวก
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,530 – 1,550 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยโดยรายงานการประชุม FED ล่าสุดมุ่งมั่นที่จะสกัดอัตราเงินเฟ้อจึงคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% - 0.75% ในการประชุม 26 -27 ก.ค. นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงและความกังวลยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศที่อาจเร่งตัวขึ้นจะกดดันดัชนี อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยพยุงดัชนีในจังหวะอ่อนตัวได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
GPSC BGRIM GULF SCGP SCC TASCO KEX อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
BDMS BH BCH CHG อานิสงส์แนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 สูงขึ้น
ASIAN GFPT KCE HANA กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
หุ้นแนะนำวันนี้
CPALL (ปิด 62 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74.5 บาท) ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นราคาสินค้าช่วยหนุนรายได้และมาร์จิ้นให้เพิ่มขึ้น ด้านแรงกดดันต่อกำลังซื้อของประชาชนในประเทศลดลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวและรัฐตึงราคาดีเซลในประเทศไปอีก 3 เดือน
GPSC (ปิด 65.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72 บาท) YTD ราคาหุ้นร่วงหนักสะท้อนต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว วันนี้น้ำมันดิบร่วงแรงจึงเป็น Sentiment บวก ประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP สูง
บทวิเคราะห์วันนี้
AP (ปิด 9.8 ซื้อ/เป้า 12.5 บาท), BDMS (ปิด 26.5 ซื้อ/เป้า 31 บาท)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) FED Minutes คณะกรรมการส่วนใหญ่หนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ: FED เปิดเผยรายงานการประชุมที่มีขึ้นในช่วงวันที่ 15-16 มิ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและมองเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมแล้ว และเฟดส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือน ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามตลาดไม่ได้ตอบรับเชิงลบกับปัจจัยนี้มากนักเนื่องจากไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเคยแถลงออกมาก่อนหน้า
(-) กลุ่มน้ำมัน - น้ำมันดิบยังไม่ฟื้น ดอลลาร์แข็งค่า และกังวลดีมานด์หดตัวยังกดดันตลาด: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 97 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 98.53 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 1) ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี, 2) กังวล ศก. ถดถอยจะกดดันดีมานด์พลังงานให้ลดลง และ 3) การชุมนุมประท้วงของคนงานในนอร์เวย์ยุติลงทำให้การผลิตและส่งออกกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
(+/-) พรุ่งนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm payrolls วัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ: ตัวเลขนี้จะชี้วัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานในสหรัฐหากตัวเลขออกมาดีและดีกว่าที่ตลาดคาด จะยิ่งกดดันให้เฟด เร่งขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ค. แต่หากตัวเลขอ่อนแอเกินไปจะทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลกับภาวะ ศก. ถดถอย นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขอัตราการว่างงานด้วยว่าจะลดลงต่อเนื่องหรือจะกลับมาพุ่งขึ้นซึ่งนัยคล้ายกับตัวเลขของ Nonfarm payrolls