ธอส.เล็งขอรัฐ 2 หมื่นล้านบาทต่อโครงการบ้านล้านหลังระยะ 3
ธอส.เล็งขอรัฐเพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท จัดโปรโมชั่นกู้บ้านดอกเบี้ยต่ำก่อนดอกเบี้ยขาขึ้นสำหรับโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 3 หวังช่วยคนจนมีบ้าน พร้อมฟันธงสิ้นยุคดอกเบี้ยต่ำ - คงที่
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ธอส. มีแผนที่จะเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาจัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้เข้ามากู้มีบ้านเป็นของตนเองได้ต่อไป
โดยหลังจากโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ปล่อยกู้หมด จะขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 3 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท หรือโครงการอื่น เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เพราะมองว่า ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อย ธนาคารจึงจำเป็นต้องมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออกมาช่วยเหลือต่อ
“หากเราปล่อยสินเชื่อเต็มโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 เต็มวงเงินแล้ว ในช่วงปีหน้า เราก็มีแผนจะขอรัฐบาล เปิดโครงการบ้านล้านหลังต่อ โดยวงเงินอาจใกล้เคียง 2 หมื่นล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย”
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเข้ามาช่วยชดเชยต้นทุนดอกเบี้ยให้ 1% เพื่อให้ ธอส. ยังคงปล่อยสินเชื่อได้ในอัตราต่ำได้ต่อ แต่เรื่องนี้จะต้องคำนึงถึงความพร้อมด้านงบประมาณของรัฐที่จะสนับสนุนด้วย
เขามองว่าช่วงหลังจากนี้ รูปแบบสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงินต่างๆ จะเปลี่ยนไป ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นแน่นอนตามต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น และจะหมดยุคสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่มีสินเชื่อแบบคงที่อีกแล้ว โดยรูปแบบสินเชื่ออาจจะเป็นกึ่งลอยตัว เช่น การนำดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หรือเอ็มแอลอาร์มาเป็นฐาน และลบด้วยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้มีโอกาสแกว่งขึ้นลงได้อยู่
“ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้ จะไม่มีโปรโมชั่นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2-3 ปีแรกอีกต่อไป เช่น คงที่ 2% คงที่ 3% แต่โปรโมชั่นสินเชื่ออาจเป็นแบบกึ่งลอยตัว โดยอ้างอิงกับดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ในตลาด ดังนั้นในช่วงนี้จึงถือเป็นโค้งสุดท้ายที่คนไทยยังจะมีโอกาสที่เข้ามากู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและคงที่ได้อยู่ ซึ่งใครอยากจะมีบ้านต้องรีบตัดสินใจไม่เช่นนั้นดอกเบี้ยจะขึ้นแน่นอน”
สำหรับโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 นั้น ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิ.ย.65 ธอส.ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1.55 หมื่นล้านบาท เหลือวงเงินเพียง 4.5 พันล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยเฉพาะหลังจากการขยายวงเงินกู้จาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ลูกค้าที่กู้บ้าน โครงการบ้านล้านหลังที่คิดดอก 1.99% นาน 4 ปี จะยังได้รับดอกเบี้ยคงที่ และเงินงวดการผ่อนชำระตามปกติอยู่ แม้ดอกเบี้ยในตลาดจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ ลูกค้าสินเชื่ออื่นที่คิดดอกผูกกับดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หากธนาคารปรับขึ้นดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ก็จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ธนาคารจะพยายามคงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์