มหาดไทยเปิดให้ต่างชาติซื้อบ้าน1ไร่พร้อมลดค่าโอน-จำนอง 3ล้านแรก

มหาดไทยเปิดให้ต่างชาติซื้อบ้าน1ไร่พร้อมลดค่าโอน-จำนอง 3ล้านแรก

“มหาดไทย ” เตรียมประกาศเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติที่มาลงทุนมูลค่า40ล้านบาทอย่างน้อย3ปี สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้บนพื้นที่ 1 ไร่ พร้อมเล็งขยายเพดานลดค่าโอน-จำนอง 0.01% ให้กับคนซื้อ 3ล้านแรก เพื่อขยายฐานคนซื้อบ้านราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว

  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย   กล่าวว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯที่ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเปิดทางชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแบบระยะยาว พร้อมสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ได้ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้ โดยการออกวีซ่าผู้พำนักระยะยาวเป็นการกำหนดวีซ่าประเภทใหม่เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง

  และต้องการเป็นผู้พำนักอาศัยในไทยระยะยาว 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศ  ไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษโดยจะได้สิทธิประโยชน์วีซ่าผู้พำนักระยะยาวใหม่มาตั้งแต่ปลายปี2564  เพื่อมีโอกาสที่ซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น เพราะอสังหาฯเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ 

 ล่าสุดได้กำลังจะมีการประกาศกระทรวงมหาดไทย กำหนดเงื่อนไข ให้คนต่างชาติที่มาอยู่ประเทศไทยที่มีศักยภาพที่มาลงทุน40ล้านบาทอย่างน้อย3ปี สามารถถือครองที่ดิน  ซื้อที่อยู่อาศัยได้บนพื้นที่ 1 ไร่ ได้ผ่านคณะกรรมการแล้วและกำลังจะเข้าครม.เร็วๆนี้  คาดว่า มาตรการนี้จะเป็นมาตรการที่กระตุ้นตลาดอสังหาฯได้เป็นอย่างดีจะทำให้ทำเลหลายๆทำเลในจังหวัดหลักๆไม่ว่าเป็นกรุงเทพฯ  สมุทรปราการ ชลบุรี  เชียงใหม่ ภูเก็ต จะได้รับอนิสงส์  จากนโยบายนี้

"ที่ผ่านมาทางกระทรวงมหาดไทย พยายามที่หามาตรการต่างๆมากระตุ้นและจูงใจให้เกิดการซื้อขายอสังหาฯกันมากขึ้น โดยเฉพาะนักธุรกิจต่างประเทศ ที่มีกำลังซื้อสูง  ประกอบราคาอสังหาฯไทยไม่ได้มีราคาแพง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ฉะนั้นเป็นโอกาสที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาฯ "

ขณะเดียวกันเตรียมที่จะขยายเพดานลดค่าโอน-จำนอง 0.01%ในการซื้อที่อยู่อาศัยไปยังระดับราคาที่สูงกว่า 3 ล้านบาท ด้วยการกำหนดไว้ที่ 3ล้านแรก เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้ออสังหาฯในระดับราคาที่สูงขึ้น ส่วนสูงถึง10-20 ล้านบาทหรือไม่นั้น คงต้องรอดูผลการศึกษาอีกครั้งก่อนที่จะประกาศ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯในประเทศอีกทางหนึ่ง