เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด (14 กรกฎาคม 2565)
หุ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อขาย และแรงขายเร่งตัวในภาคบ่าย เนื่องจากนักลงทุนติดตามการรายงานเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเดือนมิ.ย. โดยตลาดคาด +8.8%YoY
ประกอบกับตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันพุธที่ 13 ก.ค. ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย กลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลงกดดันดัชนี ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,546.80 จุด -10.60 จุด -0.68% มูลค่าการซื้อขาย 47,877 ลบ. ต่างชาติ -439.39 ลบ. TFEX -18,007 สัญญา ตราสารหนี้ -1,264.03 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ +0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันทรุดหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าคาด รวมทั้งแรงกดดันจากความกังวลว่าเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด
+ จีนรายงานยอดส่งออกเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 17.9%YoY พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 เดือน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเริ่มฟื้นตัว หลังถูกกระทบอย่างหนักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19
+ คณะผู้แทนจากกองทัพรัสเซีย ยูเครน และตุรกี ประชุมร่วมกับผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อหาทางส่งออกธัญพืชจากยูเครนไปยังตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก
+ ททท.ประเมินสถานการณ์หยุดยาว 5 วัน สร้างรายได้ 14,330 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 53% เที่ยวอีสานคึกขับรถทำบุญเสริมสิริมงคลวันเข้าพรรษา ดันอัตราเข้าพักเกิน 60%
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,257 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย รักษาหาย 2,120 ราย
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 208.54 จุด -0.67% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า CPI พุ่งขึ้น 9.1%YoY ในเดือนมิ.ย. สูงสุดในรอบ 40 ปี สูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9%YoY ในเดือนมิ.ย. แม้ชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8%
- นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ จะร่วมประชุมกับนายชุนอิจิ ซูซูกิ รมว.คลังญี่ปุ่นวันที่ 12-13 ก.ค. เพื่อหารือถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน
- ปธน.โวโลดีเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า ยุโรปจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะตัดการส่งก๊าซทั้งหมดให้กับยุโรป
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนบางอย่าง รวมถึงราคาวัตถุดิบต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น ชิ้นส่วนวัตถุดิบบางชิ้นปรับตัวสูงขึ้นกว่า 300-400% ส่งผลกระทบให้ค่ายรถยนต์ เริ่มทยอยปรับขึ้นราคาส่วนใหญ่จะปรับขึ้นหลักหมื่นบาท
-การเมืองขาดเสถียรภาพก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 19-22 ก.ค. หลังมีฝ่ายร่วมรัฐบาลลาออกมาอยู่ฝั่งค้าน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ส่งผลให้เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% หรืออาจแรงถึง 1% ในการประชุมเดือนนี้ มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ 1,545-1,555 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK SCB BBL KTB TISCO
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH
• หุ้นเด่น IAA Consensus : BBL BEM CPN KBANK
• ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF
หุ้นรายงานพิเศษ
•Bloomberg Consensus คาดหุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 2Q65 ฟื้นตัว YoY แต่ส่วนใหญ่ลดลง QoQ หุ้นที่เติบโตสูงสุด YoY ได้แก่ KKP และ KBANK ตามลำดับ
•ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร "Overweight" เราชอบหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ BBL, KBANK, KTB, SCB และ TISCO ซึ่งมี yield สูง
หุ้นมีข่าว
(+) WICE (Bloomberg consensus 20.25 บาท) ลุ้นผลงานนิวไฮ 3 ปีซ้อน โอกาสเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ ชูขนส่งทางทะเล ขนส่งข้ามชายแดนหนุน เล็งขยายพื้นที่เพิ่ม มั่นใจรายได้ตามเป้า 9 พันล้านบาท แย้มเจรจาพันธมิตรขยายฐานอีคอมเมิร์ซ คาดชัดเจนสิงหาคมนี้ พร้อมดัน ETL เข้าตลาดหุ้นปลายปีนี้ถึงต้นปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) OR (Bloomberg consensus 28.00 บาท) จ่อเก็บค่าชาร์จไฟฟ้าอีวีสิงหาคมนี้ เดินหน้าติดตั้งหัวชาร์จในสถานีบริการน้ำมัน PTT และสถานที่สาธารณะทั่วไปแตะ 7,000 สาขาในปี 2573 ล่าสุดร่วมกับ โตโยต้า ทูโช และ อีวีโลโม เพื่อพัฒนามาตรฐานแบตเตอรีและขยายเครือข่าย สถานีสลับแบตเตอรีสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปลื้มยอดขายน้ำมันเครื่องบินเร่งตัวขึ้น 60-65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BCH (Bloomberg consensus 24.20 บาท) โรงพยาบาลเตรียมขยาย Hospitel เพิ่ม หากผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งแรงหลังวันหยุดยาว หลังกระทรวงสาธารณสุขออกมาส่งสัญญาณโควิดขยับตัวขาขึ้นอีกครั้ง เผยสายพันธุ์ BA.5 แพร่เร็วกว่าเดิม 25% ปัจจุบันผู้ติดเชื้อพุ่ง 5 หมื่นรายต่อวัน ปอดติดเชื้อเยอะขึ้น 20% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KWM (Bloomberg consensus - บาท) ธุรกิจพืชสมุนไพรกระแสแรง เล็งคลอดโปรดักต์เร็วๆ นี้ ตั้งเป้ารับทรัพย์บริษัทร่วมทุนราว 80 ล้านบาท พร้อมร่อนเอกสารขอใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD คาดชัดเจนครึ่งหลังนี้ เล็งผนึกบริษัทยักษ์ใหญ่เพิ่มช่องทางขาย-ทำตลาด ชูธงรายได้ปีนี้โต 10-15% (ที่มา ทันหุ้น)