ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ แข่งเดือด! 'ทีซีพี' ระดมสินค้าใหม่เสริมทัพ
ภารกิจสำคัญของกลุ่มธุรกิจทีซีพี(TCP) หรือค่ายกระทิงแดง ใน 3 ปีข้างหน้า ต้องผลักดันยอดขายเติบโตแตะ 90,000 ล้านบาท หรือเติบโต 2 เท่าจากปี 2564 ซึ่งบริษัทมียอดขายราว 44,000-45,000 ล้านบาท
3 กลยุทธ์มุ่งสู่การเติบโต คือการปลุกพลังแบรนด์สินค้า ปลุกพลังธุรกิจเติบโต และปลุกพลังรักษ์โลกมากขึ้น
ด้านปลุกพลังแบรนด์สินค้า มุ่งเสิร์ฟสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง และหมวดสุขภาพหรือฟังก์ชันนอลดริ้งค์ อาหาร ฯ และเตรียมคลอด 5 แบรนด์ใหม่ ทำตลาด เป็นต้น ส่วนครึ่งปีหลัง 2565 เพื่อขานรับแนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ เน้นป้องกันมากกว่ารักษา ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ทั้งขวด PET และวิตามินซีแบบช็อตรวมถึงน้ำผสมวิตามินหรือวิตามิน วอเตอร์ส่งสัญญาณโต “กลุ่มธุรกิจทีซีพี” จึงเดินเกมรุกเต็มสูบ
ประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโกลเบิล (F&B) กลุ่มธุรกิจ TCP ฉายแผนธุรกิจเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ปี 2565 วางงบประมาณ 450 ล้านบาท เพื่อทำตลาด นับเป็นงบสูงสุดในรอบหลายปี เพราะจากนี้ไปบริษัทจะมีสินค้าใหม่เข้าทำตลาดเพิ่ม ในกลุ่มสุขภาพหรือ Health & Wellness ทั้งเครื่องดื่ม และอาหาร ไม่จำกัดแค่เครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์เท่านั้น
ขณะเดียวกันประเดิมรีลอนซ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ “แมนซั่ม” กับบรรจุภัณฑ์ใหม่ “รักษ์โลก” พร้อมนำเสนอภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตอบโจทย์ “ผู้ชายหลากสไตล์” มากขึ้น และครั้งนี้ “แมนซั่ม” ยังประกาศชัดในการรุกกลุ่มเป้าหมายเจนเนอเรชันซี(Z)เต็มสูบอายุ 15-24 ปี มีการดึง “มังกร รัชชานนท์” และ “พอส นรากร” แห่งวง Yes Indeed Band มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากเจนซีคือขุมทรัพย์อำนาจซื้อแห่งอนาคต ที่แบรนด์ต้องปูฐานไว้ อีกโอกาสทองคือผลวิจัยผู้บริโภคในการเลือกดื่ม “วิตามิน วอเตอร์” ที่เข้าถึงผู้ชาย 79% แต่มีอีก 14% ยังไม่ลองสินค้า แต่ “สนใจอยากลิ้มลอง” บริษัทจึงต้องการขยายฐานให้กว้างเข้าไปถึงคนกลุ่มนี้ ด้วยการนำเสนอวิตามิน วอเตอร์ที่ให้คุณประโยชน์ชัดเจนขึ้น เป็นต้น
แค่นั้นไม่พอ บริษัทยังวางแผนออกสินค้าใหม่เสริมทัพด้วย สำหรับ “แมนซั่ม” ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ 1 รายการ และวิตามิน วอเตอร์ 2 รายการ
“แมนซั่มทำตลาดมาครบ 10 ปี จึงมีการปรับแบรนด์ โลโก้ M ให้สื่อถึงผู้ชายทุกสไตล์ พร้อมปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ เพื่อต่อยอดแบรนด์เจาะวัยรุ่นเจนซีมากขึ้น"
อีกแบรนด์หัวหอกกำลังเติบโตคือ เครื่องดื่มวิตามินซีแบบช็อต “ไฮ่!” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกปี 2563 เดือนพฤศจิกายน 2564 ได้ปรับกลยุทธ์ผนึก “DHC” แบรนด์วิตามินซีอันดับ 1 จากญี่ปุ่น มาเสริมแกร่ง การผสานพลัง 2 แบรนด์ ทำให้ “ไฮ่! X DHC” ก้าวเป็นเบอร์ 2 ในตลาดวิตามินซีแบบช็อตโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น 2% จากเดิมรั้ง Top 5
“เราชนะเบอร์ 3 ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา”
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ปี 2565 คาดการณ์เติบโต 5.6% มูลค่าแตะ 7,677 ล้านบาท จากปีก่อน “ติดลบ” 13.3% เพราะผลกระทบจากโควิด ตลาดดังกล่าวยังแบ่งย่อยเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีแบบช็อต 6,500 ล้านบาท ที่เหลือเป็นฟังก์ชันนอลดริ้งค์ โดยหมวดหลัง “แมนซั่ม” เป็นเบอร์ 1 ครองส่วนแบ่งตลาด 39% ส่วนเครื่องดื่มวิตามิน วอเตอร์ปีนี้คาดโต 4.7% มูลค่า 2,499 ล้านบาท “แมนซั่ม” รั้งอันดับ 5 จากตลาดมีทั้งสิ้น 13 แบรนด์
ปลุกพลังแบรนด์สินค้า ประเดิม 2 เรือธง "แมนซั่ม-ไฮ่! X DHC"
“เป้าหมายปี 2565 บริษัทต้องการผลักดันรายได้เครื่องดื่มไม่ใช่พลังงานทั้งแมนซั่ม ไฮ่!XDHC มีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนรายได้ 700 ล้านบาท”
ฟากเจ้าตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งค์ โดยเฉพาะวิตามินซีแบบช็อต “ผู้นำ” ยังคงเป็น “ซีวิท” จากค่ายโอสถสภา ซึ่งยืนหนึ่งด้านส่วนแบ่งตลาด “ทิ้งห่างคู่แข่ง” เบอร์รองทุกรายค่อนข้างมาก
ไตรมาสแรกโอสถสภา เผยรายได้รวมเติบโต เมื่อลงลึกกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ ผลงาoเด่นไม่แพ้กันเพราะโตถึง 19.5% ส่วน “ซีวิท” ในปี 2565 ทำตลาดครบ 1 ทศวรรษ ยังสร้างสถิติโกยส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 38% เติบโต 8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
แนวโน้มตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งค์ และวิตามิน วอเตอร์
สำหรับตลาดเครื่องดื่มเป็นเวทีของ “ยักษ์ใหญ่” สู้ศึกกัน แต่ละหมวดมี “คู่ชก” ที่ขุมพลังแกร่งทั้งเงินทุน แบรนด์ดัง กลยุทธ์การตลาดไม่ด้อยกว่ากัน เช่น ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ “ทีซีพี” เปิดเซ็กเมนต์ “ผู้ชาย” ทำตลาดจนเป็นผู้นำ “ส่วนผู้หญิง “เซ็ปเป้” ครองตลาดอยู่ วิตามินซีแบบช็อตนอกจากมี “ซีวิท” ยังมี “วู้ดดี้ ซี+ ล็อค” จากคาราบาว กรุ๊ป และ “วิตอะเดย์” จากค่ายเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ ซึ่งบริษัทมีวิตามิน วอเตอร์รุกตลาดอีกทางด้วย