ผันผวนระหว่างรอพัฒนาการจากปัจจัยต่างๆ

ที่อาจสร้างจุดเปลี่ยนทางจิตวิทยาระยะสั้นจากการขึ้นดอกเบี้ยและประกาศมาตรการดูแลเสถียรภาพของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในกลุ่มที่ยังมีปัญหา (Anti-fragmentation instrument) ด้วยการยุติ QE ในประเทศเศรษฐกิจแข็งแกร่ง แต่ยังดำเนินการต่อในกลุ่มประเทศที่อ่อนแอ ซึ่งมาตรการดังกล่าวคาดจะทำให้ตลาดลดความกังวลวิกฤติยุโรปในระยะสั้นได้ และช่วยให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯอ่อนลง เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง // ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 19 ก.ค. KKP / 20 ก.ค. TTB, KTB, SCB / 21 ก.ค. KBNAK / หากไม่มีการตั้งสำรองหนี้เสียอย่างมีนัยสำคัญ มีโอกาสเห็นแรงซื้อคืนกลับเข้ามาในกลุ่มนี้

 

ธนาคารกลางพม่าสั่งระงับชำระคืนเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ ผลจากเงินทุนสำรองที่ลดต่ำลงหลังเผชิญสถานการณ์โควิดและการคว่ำบาตรจากต่างประเทศ ทำให้ล่าสุดธนาคารกลางพม่าประกาศนโยบายระงับชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศ โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้ 1) หยุดพักชำระหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศและให้ปรับตารางการชำระเงินใหม่ 2) บังคับแปลงสภาพหนี้สกุลต่างประเทศของบริษัทพม่า (ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 35%) เนื่องจากเป็นประกาศของรัฐบาลทำให้การหยุดชำระหนี้ไม่ส่งผลต่อเครดิต และการดำเนินธุรกิจระยะยาว  แต่ในระยะสั้นคาดส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ประกอบธุรกิจในพม่า หรือที่มีสัดส่วนรายได้จากพม่าสูง ได้แก่ MEGA (35%), OSP (10%), CBG (7%) , BH (6%) สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงานและวัสดุก่อสร้าง อาทิ PTTEP, SCC คาดไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ  / สำหรับกลุ่มที่เราไม่สามารถประเมินผลกระทบออย่างชัดเจน  ได้แก่ ITD, TTCL, SQ, NWR, SEAFCO เป็นต้น
 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) กลุ่มถ่านหิน ราคาอาจฟื้นตัว หรือได้ประโยชน์หากรัสเซียลดหรือระงับการส่งก๊าซที่ Nord stream 1 หลัง 21 ก.ค. BANPU

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,520-1,555 ขณะที่ภาพใหญ่ยังอาจซึมลงจากการทยอยปรับประมาณการ ช่วงสั้นเม็ดเงินมีโอกาสเข้าพักหุ้นปลอดภัย (สื่อสาร ไฟฟ้า การแพทย์) ระหว่างทยอยสะสมหรือรอจุดซื้อในหุ้นที่อาจถูกขายทำกำไรจากความกังวลการระบาดโควิดรอบใหม่ รวมถึงโอกาสเกิดล็อคดาวน์รอบใหม่ที่จีน 1) กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการทยอยสะสมและซื้อกลับหลังแรงทำกำไรรอบนี้ของเรา 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน) //หุ้นแนะนำ:  CPN*, ANAN*, RATCH*, BANPU*

แนวรับ: 1,535 / แนวต้าน : 1,555 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลงเป็นเดือนที่ 7 - ลดลง 12 จุด สู่ระดับ 55 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจข้อมูลดังกล่าว และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

ปักกิ่งออกคูปองรวมกว่า 100 ล้านหยวนหวังกระตุ้นตลาดผู้บริโภค - คูปองมูลค่ารวม 100 ล้านหยวน (14.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อกระตุ้นการบริโภคในภาคธุรกิจอาหาร 18 ก.ค. ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลและบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มจัดส่งอาหาร โดยแคมเปญส่งเสริมการขายนี้คาดว่าจะครอบคลุมร้านอาหารมากกว่า 70,000 แห่ง

 

หุ้นแบงก์ใหญ่สหรัฐฯยังคงรายงานงบต่อเนื่อง

โกลด์แมน แซคส์ (GS) – กำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากธุรกิจการทำข้อตกลงควบรวมกิจการที่ซบเซา โดยกำไร 2.8 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด (EPS $7.73 vs คาดการณ์ $6.58)

แบงก์ ออฟ อเมริกา (BAC) - กำไรในไตรมาส 2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากธนาคารต้องทำการกันสำรองหนี้สูญวงเงิน 523 ล้านดอลลาร์โดยกำไรลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 6.25 พันล้านดอลลาร์ (EPS $0.73 vs คาดการณ์ $0.75)

 

ประเด็นติดตาม: 13-20 ก.ค. – รายงานงบกลุ่มแบงก์ / 19 ก.ค. – EU CPI / 20 ก.ค. – US Existing Home Sales / 21 ก.ค. - ECB Interest Rate Decision, US Initial Jobless Claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)