“จุรินทร์”ลั่นกลางสภาไม่ปล่อยทุจริตถุงมือยาง อคส. แสนล้านบาทลอยนวล
“จุรินทร์ “สวน”เพื่อไทย “โกหกกลางสภา คดีถุงมือยาง อคส.ฟันวินัยร้ายแรงใครผิดไม่เอาไว้ ไม่แค่ทุจริตถุงมือยางแต่รวมไปถึงโครงการ”จำนำข้าว จำนำมัน” ไล่บี้เอาเงินรัฐคืน โวล้างภาพทุริตในอคส.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวชี้แจงที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ไม่มีความคืบหน้าในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฏร อาคารรัฐสภา ว่า เรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งคณะกรรมการการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้นำข้อมูลของอคส.ไปไต่สวน ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทยที่ไปยื่นป.ป.ช. ทุกอย่างมีขั้นตอนกระบวนการ ถ้าใครไปทำอะไรนอกกฎหมายกระบวนการลงโทษผิดขั้นตอนและเป็นช่องว่างให้คนที่กระทำการทุจริตเอ่ยอ้างและลอยนวล
โดยคาดว่า ป.ป.ช.จะมีมติชี้มูลในเร็วๆนี้ และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตถุงมือยาง เมื่อเกิดเรื่องตนก็รีบเข้าดำเนินการทันทีตั้งแต่การเสนอนายกรัฐมนตรีให้มีคำสั่งย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยการไปอยู่สำนักนายกฯทันที ขณะที่ผู้อำนวยการ อคส.ก็ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ล่าสุดกก.ชี้มูลความผิด 3. รายคืออดีตรักษาการผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย และ มีมติให้ไล่ออกทั้ง 3 ราย โดยผอ .อคส.ออกคำสั่งไล่ออกตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 64 จำนวน 2 ราย ส่วนอดีตรักษาการผู้อำนวยการ ซึ่งโดนคำสั่งย้ายไปสำนักนายกฯซึ่งการดำเนินการทางวินัยเป็นหน้าที่ของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กระบวนการลงโทษถูกต้องตามกฎหมายไม่ถูกโต้แย้งวันหลังให้เป็นโมฆะ
นอกจากนี้ผู้อำนวยการอคส.ก็ตั้งกรรมการสืบสวนต่อไปเพื่อลงโทษทางวินัยตามระเบียบ และยังเดินหน้าแจ้งความอดีตรักษาการผู้อำนวยการกับพวกกับดีเอสไอ และยื่นเรื่องกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีในทันที รวมทั้งยื่นให้ป.ป.ช.ดำเนินการชี้มูลความผิด
สำหรับความผิดทางละเมิดนั้น ที่ต้องติดตามทวงเงินนั้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบและผลสอบออกมาแล้วว่า มีผู้รับผิดทางละเมิด 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ตั้งสอบแล้วพบประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเจตนาทำให้รัฐเสียหาย มี 4 รายต้องชดใช้คนละ 400.8 ล้านบาท รวม 1,603 ล้านบาท โดย 3 รายแรก จนท.ที่ถูกชี้มูลความผิดทางวินัย ส่วนอีกราย ประธานบอร์ดอคส. ต้องรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายด้วย ข้อหาเจตนาทำในข้อหาเจตนาทำให้รัฐเสียหาย 400 ล้านบาทโดยประมาณ
2 กลุ่มที่ประมาทเลินเล่อมี 3 ราย ชดใช้คนละ 133.6 ล้านบาท รวม 400.8 ล้านบาท รวมสองกลุ่มเป็น 2,000 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามตามกระบวนการของพระราชบัญญัติการรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไปยุติที่กระทรวงคลังเป็นผู้ชี้ขาดตามกฎหมาย ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.65
กรณีประธานบอร์ดมีประเด็นข้อกฎหมายจากผลการสอบให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นไปตามคำสั่งผู้อำนวยการ อคส. แต่ประธานบอร์ดเป็นผู้บังคับบัญชา อคส. ดังนั้นต้องถามกฤษฎีกา ก็ตอบกลับมาว่า หากพบความผิดทางละเมิดของประธานบอร์ดให้รัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบโดยใช้กรรมการสอบชุดเดิมได้ เพื่อผลสอบจะได้ไม่เกิดความลักลั่น ซึ่งวันที่ 31 พ.ค. 65 ตนลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดประธานบอร์ดเสร็จสิ้นแล้ว ความคืบหน้าคือกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากที่ท่านอภิปรายทุกอย่างมีความคืบหน้า วันที่อภิปราย ผมยืนยันกับสภาชัดเจนว่า ไม่เคยมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้หรือการดำเนินการใด ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการทั้งที่ลับที่แจ้ง การกล่าวหาว่า ไม่เคยตั้งกรรมการสอบ ไม่เคยมีการอายัดเงินก็ไม่จริง ไม่ดำเนินคดีก็ไม่จริง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าท่านโกหก ตนไม่ยอมไม่ว่าใครทุจริตโครงการนี้ก็ตาม จะจัดการทั้งทางวินัยแพ่ง อาญา จนถึงที่สุด
ทั้งนี้การติดตามการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางเป็นหน้าที่ของอคส. โดยเฉพาะการติดตามนำเงินค่ามัดจำ2 ,000 ล้านพร้อมดอกเบี้ย และไม่ใช่แค่เรื่องถุงมือยาง แต่อคส.จะติดตามค่าเสียหาย จำนวน 504,861 ล้านบาท จากการทุจริตโครงการจำนำข้าวและเงินทุจริตจำนำมันสำปะหลัง คู่แฝดทุจริตจำนำข้าวที่พวกท่านเป็นรัฐบาล ต้องไปทวงเงินคืนมาทั้งหมด 33,000 ล้านบา
“ที่ท่านกล่าวหาในญัตติว่าตนปล่อยประละเลยไม่ติดตามแก้ไขปัญหาการทุจริตเพื่อให้มีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐหรือ อคส. จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับมีความคืบหน้าในทุกกรณีตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมาย และที่ท่านบอกว่าไม่เห็นความคืบหน้า ท่านหูดับแล้ว เพราะทั้งหมดคือความคืบหน้าของการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายชัดเจนทุกเรื่องทั้งแพ่ง อาญา วินัยและการหาตัวผู้กระทำผิดมาชดใช้ค่าเสียหาย 2000 ล้านบวกดอกเบี้ย ”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่การติดตามเอาเงินของรัฐคืนจากการทุจริตถุงมือยาง ยังได้ติดตามเอาเงินจากการทุจริตโครงการรับนำจำข้าวในช่วงพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ที่สร้างความเสียหายให้อคส. 504,861 ล้านบาท จนต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย รวม 1,180 คดี ซึ่งคดีนี้เป็นเวลามากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งคดียังอยู่ในศาลคืบหน้าเป็นลำดับแต่ยังต้องใช้เวลาตามกระบวนการยุติธรรม
ขอยืนยันว่า ตนสั่งการเร่งรัดให้ดำเนินการเร็วที่สุด ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังเพราะนี่คือเงินของรัฐตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ต้องดำเนินการเอาคืน ซึ่งการเอาจริงเอาจังกับการทุจริตและความไม่โปร่งใสของ อคส.ในยุคนี้ทำให้ป.ป.ช.ประเมินคะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสของ อคส. กระเตื้องขึ้นมาก ยุคท่านได้ไม่ถึง 70 คะแนน ในปี 63-64 ป.ป.ช. ให้คะแนน อคส. มีคุณธรรมความโปร่งใสและเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ในเรื่องนี้ ปี 63 ได้ 83 คะแนนระดับเอ ปี 64 ได้ 93.59 คะแนน