Sideways ซื้อเก็งกำไร TRUE FSMART OTO (21 ก.ค. 65)

ดยจะมีสัญญาณซื้อเพิ่มต่อ เมื่อดัชนีฯ ทะลุ 1546 จุด โมเมนตัมบวกยังคงเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ รับรายงานผลกำไรบจ. ที่แข็งแกร่ง ส่วนโมเมนตัมลบ คือ ความเสี่ยง Liquidity Run ของ Zipmex ประเทศไทย หลังประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาท และคริปโทฯ เป็นการชั่วคราว ไฮไลท์วันนี้ คือ การประชุมธนาคารกลางสำคัญ 2 แห่ง คือ BoJ และ ECB ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ติดตาม ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ รายกำไรของบจ. ไทยและสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT EA CPN MINT KTB BDMS พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH AJ BAFS DOD NYT RS SIS TWPC TMT ASK WICE PORT HFT AGE LST TK (แนะนำขาย NER; ซื้อ DOHOME SAT TOG)

+ 2Q22E Earnings Play: กำไรเติบโตสูง > 15% YoY, 20% QoQ และมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย >10% แนะนำ PTT PLANB TOP CPALL BEC VGI KCE MINT SPRC MAJOR BEM

+ กลุ่มเงินบาทอ่อนค่า: TFG GFPT ASIAN TWPC SAPPE KCE MEGA

+/- กลุ่มได้ประโยชน์ จากการลดลงของยิลด์พันธบัตร (ดอกเบี้ย): +ผู้ผลิตไฟฟ้า: GULF GPSC BGRIM พัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ORI AP LH เงินทุนและหลักทรัพย์: JMT KTC MTC -ธนาคาร ประกันภัยและประกันชีวิต: BBL KBANK KKP BLA TIPH

+/- กลุ่มอิงการแพร่ระบาด COVID-19: +การแพทย์: BH BDMS BCH CHG RAM EKH อุปกรณ์การแพทย์: IMH STGT –กลุ่มเปิดประเทศ: AOT AAV BAFS CENTEL MINT ERW SHR

+/- กลุ่มอิงสินค้าโภคภัณฑ์: +กลุ่ม Commodities: PTTEP BANPU TOP SPRC ESSO -Anti-Commodities Play: SCC SCGP TASCO GULF GPSC

 

ปัจจัยบวก

+ USA: ผลการดำเนินงานของบจ. ในสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ดีกว่าที่คาด ส่งผลให้เกิด Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก

+ Thailand: KKP และ TTB รายงานกำไร 2Q22 ออกมาดีกว่าที่ Consensus คาด ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นธนาคารอื่น ๆ เพื่อลุ้นผลประกอบการ

 

ปัจจัยลบ

- Thailand: ค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย จากนักลงทุนต่างชาติ เพื่อหลีกเลี่ยง FX Loss

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ 10 รัฐมนตรี (จนถึงวันที่ 23 ก.ค.)

- Earning Result: USA: DOW INC, TRAVELERS, AMERICAN AIR LINES, TWITTER และ VERIZON; Thailand: หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์

- Japan: การประชุม BoJ คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1%

- EU: การประชุม ECB คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่ 0.25%

- USA: ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ คาดเพิ่มขึ้น 2.4 แสนราย (Vs สัปดาห์ก่อน 2.44 แสนราย)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกตามตลาดหุ้นโลก และแกว่งตัวในกรอบ 1,535.52-1,545.25 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,539.32 จุด +5.89 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +5.80% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +1.16% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.53% กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +0.86 หุ้นบวก >4% DELTA DTAC COM7 BLESS FORTH TEAM FSMART SI MAJOR SNNP BE8 หุ้นลบ >4% ARIN NV

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +0.15% S&P500 +0.59% NASDAQ +1.58% นำขึ้นโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ และกลุ่มสื่อ (หลังจาก NETFLIX รายงานยอดผู้ใช้งานลดลงน้อยกว่าคาด และ TESLA รายงานกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาด) กลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (วุฒิสภาฯ ผลักดันการผลิตชิปในสหรัฐฯ วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ FTSE -0.44% CAC40 -0.27% DAX -0.2% วิตกวิกฤติขาดแคลนพลังงานในยุโรป การเมืองในอิตาลี และผลประชุมอีซีบีวันนี้

 

 

- ตลาดน้ำมันและทองคำปิดลบ: WTI-USD1.96 ปิดที่ USD102.26/บาร์เรล Brent -USD0.43 ปิดที่ USD106.92/บาร์เรล เป็นผลจากตลาดกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันอ่อนแอในช่วงฤดูขับขี่รถยนต์สหรัฐฯ หลังรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินสัปดาห์ก่อน พุ่งขึ้นถึง 3.5 ล้านบาร์เรล (Vs คาดเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล) แม้รายงานสต็อกน้ำมันดิบต่ำกว่าคาด (-4.46 แสนบาร์เรล Vs คาด +1.35 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำ -USD10.50 ปิดที่ USD1700.20/ออนซ์ ต่ำสุดรอบ 15 เดือน หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมำแข็งค่าขึ้น

 

ประเด็นสำคัญ

+ UK: พรรคอนุรักษ์นิยมได้เสร็จสิ้นการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 2 คนสุดท้าย ที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว โดยนายริชิ ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ได้คะแนนเสียงสูงสุด (137) ตามมาด้วยนางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศ (113) ส่วนนางเพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีการค้า ได้รับคะแนนน้อยที่สุด (105)

+ Thailand: ผู้ว่าการธปท. ระบุว่า ขณะนี้ได้เห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว จากผลกระทบของ COVID-19 ชัดเจนขึ้น และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังต้องเจอกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึงความท้าทายจากการปรับนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ตลาดการเงินและตลาดทุนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงไทยต้องผันผวนสูง แต่ระบบการเงินและสถาบันการเงินของไทยยังมีศักยภาพที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และทำงานได้ตามปกติ

- Thailand: ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Zipmex Thailand แถลงการณ์ชี้แจงการประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาท และคริปโทฯ เป็นการชั่วคราวว่า เนื่องจากเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าของ Zipmex Global คือ Bebel Finance และ เซลเซียส ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา (เป็นลบต่อ PLANB, MACO และ BAY ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่เข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มดังกล่าว)

- USA: สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.4% สู่ระดับ 5.12 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2020 และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้าน มือสอง ลดลงสู่ระดับ 5.38 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย.

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BDMS TFG MTC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TRUE FSMART OTO

Derivatives: แนะปิด Long S50U22 ล็อกกำไรทั้งหมด