OTO เปิดแพลตฟอร์มอีสปอร์ตโฉมใหม่ ขึ้นแท่น ”ผู้นำ” ในไทย

นับเป็น “ผู้นำแพลตฟอร์มอีสปอร์ต” เจ้าแรกของเมืองไทย ! สำหรับ บริษัท อินโน ฮับ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO หลังจากเข้าถือหุ้นสัดส่วน 49% ใน บริษัท ฟิจิตอล สเปซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSD) ผู้ประกอบธุรกิจเกมและอีสปอร์ตผ่านแพลตฟอร์ม (Platform) 

“ปฏิพล ประวังสุข” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโน ฮับ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิจิตอล สเปซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSD) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า วันนี้ (22 ก.ค.) จะมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มอีสปอร์ตโฉมใหม่ที่มี “จุดเด่น” โดดเด่น ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว หลังจากบริษัทมีการปิดปรับปรุงในช่วงที่ผ่านมา 

หลังงจาก OTO ได้ลงนามในสัญญา Memorandum of Agreement (MOA) ร่วมกับ บริษัท SIX Protocol PTE. LTD. เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท “คริปโทเคอร์เรนซี” สกุลเงิน SIX จำนวน 1,000,000 เหรียญ มูลค่าลงทุนไม่เกิน 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ 

โดยความพิเศษของอีสปอร์ตอย่าง Z7DAO จะนำมาขึ้นบนแพลตฟอร์ม “Hubber.gg” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม “Esports Team” ที่สร้างขึ้นมา รองรับนักเล่นเกมที่มีมากกว่า 30 ล้านคน ทั้งไทยและทั่วโลก ซึ่งมีแพลตฟอร์มเกม นักกีฬาเกม และเหรียญ NFT เพื่อใช้ใน Community ของตัวเอง ผ่านเหรียญ Z7DAO ที่จะเข้ามาช่วยกระจายรายได้จากการแข่งขันอีสปอร์ต พร้อมกับการเป็นตัวกลางนำนักแข่ง , แฟนคลับ , นักลงทุนจากทั่วทุกโลกมาเจอกัน รวมถึงใช้ในการแลกซื้อสินค้าที่อยู่ใน Community Esports ภายใต้แพลตฟอร์ม 

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าว ถือว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเงินรางวัลสูงสุดนับตั้งแต่เคยจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ !! ซึ่งคาดว่า เงินรางวัลจะอยู่หลักแสนบาทไปจนถึงล้านบาท จากเดิมเงินรางวัลสูงสุดแค่ 7,500-9,000 บาท ดังนั้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจในตลาดอีสปอร์ตให้มีคนสนใจเข้ามาแข่งขันมากขึ้น สะท้อนผ่านตลาดเกม และอีสปอร์ตในภูมิภาคอาเซียนเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี แต่คาดว่าตลาดไทยจะเติบโตมากกว่า เพราะว่าตลาดยังเล็ก  

“ปฏิพล” แจกแจงต่อว่า บริษัทไม่ได้หยุดเพียงแค่แพลตฟอร์มดังกล่าว แต่ปัจจุบันบริษัทกำลังต่อยอดธุรกิจสู่การเป็นแพลตฟอร์มบอกรับสมาชิกแบบรายเดือน จากปัจจุบันบริษัทเปิดให้ใช้แพลตฟอร์มฟรี แต่ที่วางเป้าหมายเป็นการสร้างพอร์ต “รายได้ประจำ” หรือ Recurring Income ที่สร้างสินทรัพย์ที่มั่นคงด้านรายได้ต่อเนื่อง 

โดยคาดจะดำเนินการโปรเจกต์บอกรับสมาชิกเดือนก.ย. 2565 และคาดจะเริ่มมีรายได้เข้ามาไตรมาส 4 ปี 2565 ซึ่งวางเป้าหมายมีสมาชิกรายเดือนปีนี้ประมาณ 1 แสนคน คิดเป็นรายได้เข้ามา 100 ล้านบาท และปี 2566 คาดว่าจะมีสมาชิกรายเดือนเพิ่มเป็น “เท่าตัว” หรือราว 2 แสนคน หรือคิดเป็นรายได้ราว 200 ล้านบาท !! 

รวมทั้ง บริษัทเปิดกว้างให้ผู้พัฒนาเกม หรือประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจสามารถนำเกมมาจัดการแข่งขันบนแพลตฟอร์มของบริษัทได้ด้วย หรือให้บริษัทเป็นคนดำเนินการจัดการแข่งขันให้ได้ เนื่องจากบริษัทมีความถนัด และมีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันอยู่แล้ว โดยปัจจุบันมีจัดการแข่งขันเกมอยู่ 3-4 เกม ซึ่งเป็นเกมที่คนไทยนิยม และหากมีผู้พัฒนาเกมหรือประชาชนต้องการนำเกมมาแข่งขันบนแพลตฟอร์มของบริษัทได้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดเกมเติบโต และเกมของผู้พัฒนาก็จะเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น 

ท้ายสุด “ปฏิพล” บอกไว้ว่า ธุรกิจอีสปอร์ตซึ่งเป็นเทรนด์ที่ใหม่ และกำลังมาแรงทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นเมกะเทรนด์ (Mega Trend) ที่น่าจับตามองเลยทีเดียวในอนาคต เนื่องจากตลาดมีการเติบโตต่อเนื่อง

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์