“พิพัฒน์” จ่อลงพื้นที่ภูเก็ต เล็งประสาน “เอสเอ็มอีแบงก์” อุ้มโรงแรมเล็ก
“พิพัฒน์” เล็งประสานความร่วมมือกับ “เอสเอ็มอีแบงก์” ต่อลมหายใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรงแรม ลุยลงพื้นที่ “ภูเก็ต” ต้นเดือน ส.ค.นี้ จ่อปั้น ”ภูเก็ตโมเดล” อุ้มโรงแรมขนาดเล็ก ต่อยอดไปทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อหารือร่วมกับตัวแทนสมาคมด้านการท่องเที่ยว หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่มีจำนวนมากกว่า 50% ของจำนวนห้องพักในภูเก็ต ที่ยังลำบากอยู่มาก และเข้าไม่ถึงมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจากภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปถึงปัญหาของผู้ประกอบการแล้ว จะประสานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยตอนนี้ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่รอดจากวิกฤติโควิด-19 แล้ว แต่กลุ่มเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ยังไม่รอด ต้องช่วยให้ผู้ประกอบการกลับมารีสตาร์ทธุรกิจ ดำเนินกิจการได้อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าได้รับเงินทุนแล้วนำไปปิดหนี้ แต่ต้องมีแผนธุรกิจมานำเสนอด้วย
สำหรับเหตุผลที่เลือกลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพราะสามารถนำไปเป็นโมเดลแก้ปัญหาให้กับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ทั่วประเทศ ทั้งคนภูเก็ตยังมีอาชีพเดียวคืออาชีพการท่องเที่ยว พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก และยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่คนอยากมาเที่ยวจำนวนมาก
โดยเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือน จ.ภูเก็ต มากที่สุดถึง 14 ล้านคน มีจำนวนซัพพลายหัองพักโรงแรมในภูเก็ตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2561 ทำให้เกิดการแข่งขันดึงลูกค้าอย่างมาก
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า สำหรับห้องพักใน จ.ภูเก็ต มีประมาณ 2 แสนห้อง ในจำนวนนี้เป็นห้องที่ถูกกฎหมายประมาณ 8.5 หมื่นห้อง จำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 800 แห่ง ช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 หรือปี 2562 ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 4.5 แสนล้านบาท ในปี 2565 คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมาประมาณ 30% ของสถาการณ์ปกติ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท
“โรงแรมขนาดใหญ่ขณะนี้พอมีรายได้ ส่วนโรงแรมขนาดกลางและเล็กที่รับนักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นหลักเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะแถบหากกะรน ยังไม่เปิดให้บริการ ปีนี้โรงแรมจึงยังไม่พ้นภาวะวิกฤติ”