Cryptomind คาด เฟดขึ้นดอกเบี้ย กระทบ'บิตคอยน์'ระยะสั้น

“สัญชัย ปอปลี”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทบริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คาดราคาบิตคอยน์จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการรายงานตัวเลข GDP สหรัฐในไตรมาส 2ปี 2565 ที่คาดว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเต็มตัว

รวมทั้งรอดูแรงเทขายจากตลาดหุ้นอาจทำให้ราคาบิตคอยน์ทะลุแนวรับสำคัญที่ 20,000 ดอลลาร์ ลงไปอยู่ที่ระดับ 18,000 ดอลลาร์

 แม้ตลาดคริปโทได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยกว่าตลาดหุ้น หากย้อนกลับในช่วงเริ่มต้นของโควิด-19 ที่ทุกตลาดได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับบิตคอยน์ แต่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลงเพียงแค่ 2 เดือน คือ ในเดือน ก.พ. และ มี.ค.2564 และปรับตัวขึ้นเร็วกว่าสินทรัพย์อื่น ๆแต่ก็ต้องรอติดตามว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะกระทบต่อตลาดคริปโทมากน้อยแค่ไหน

 สำหรับตลาดคริปโทเคอเรนซีในช่วงครึ่งปีหลังต้องรอประเมินสถานการ์สงครามยูเครน-รัสเซียว่าจะยังคงยืดเยื้อหรือสิ้นสุดในปีนี้ รวมทั้งรอดูท่าทีของเฟดว่าสามารถแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้หรือไม่

โดยนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 อาจมีการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคริปโทเคอรร์เรนซี่ อาจมีลักษณะแกว่งตัวลง และคาดว่ายังไม่ใช่จุดต่ำสุดของตลาด ซึ่งยากที่จะคาดเดาจุดต่ำสุดของราคาบิตคอยน์ แต่มีสัญญาณที่สำคัญที่ต้องติดตาม คือ 1.ภาวะเงินเฟ้อ 2.เฟดขึ้นดอกเบี้ย หากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ตามที่ตลาดได้มีการคาดการณ์ จะส่งผลกระทบในระยะสั้น

โดยสภาพตลาดดังกล่าว เหมาะสำหรับการลงทุนของนักลงทุนในระยะสั้นถึงระยะกลาง ที่สามารถทำกำไรได้และสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาวนั้นต้องถือสินทรัพย์ไว้เกิน 1 ปี จึงจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง

อย่างไรก็ตามจากกรณีซิปเม็กซ์ที่มีปัญหาสภาพคล่องและระงับการถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อในวันที่ 20 ก.ค.2565 นั้น มีผลกระทบในตลาดคริปโทฯในไทยอย่างมาก โดยเฉพาะกระดานเทรดในประเทศไทยที่สูญเสียความน่าเชื่อถือ รวมถึงความเชื่อมั่นเชื่อใจของนักลงทุนและอาจจะเกิดการแห่ถอนเงินออกจากกระดานเทรดในประเทศไทยมากขึ้น เพราะความตื่นตกใจและกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก