“กฟน.” ชูยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรพัฒนาระบบไฟฟ้ารับ “พลังงานหมุนเวียน - อีวี” สู่การเป็น “กรีน ออร์แกไนเซชั่น” ตั้งเป้าสิ้นปีมีหัวชาร์จอีวีครบ 100 หัวชาร์จ ชูระบบ Smart Metro Grid ควบคุมพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ ก้าวสู่ Fully Digital Service ดันนวัตกรรมพาองค์กรโตยั่งยืน
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ MEA เปิดเผยว่า วันที่ 1 ส.ค. 2565 เป็นวันคล้ายวันสถาปนา MEA ครบรอบ 64 ปี ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีภารกิจที่สำคัญภายใต้วิสัยทัศน์ Energy for city life, Energize smart living ขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านเพื่อจะก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่ตามแนวทาง “64th MEA CHALLENGING THE FUTURE” สร้างสรรค์นวัตกรรม ขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าสูงสุดทุกมิติ
1. ระยะสั้น ปี 2566 - 2568 Strengthen Smart Energy มุ่งเน้นการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อรองรับการเริ่มเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อตอบสนองการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้ารองรับ Renewable Energy และ EV ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยกระดับการให้บริการที่เป็น Digital service พร้อมสร้างความยั่งยืนขององค์กรตามแนวทาง Global Reporting Initiative (GRI) ที่สอดคล้องกับองค์การสหประชาชาติ
2. ระยะกลาง ปี 2569 - 2570 Smart Utility นั้น MEA จะมุ่งสู่การให้บริการแบบ Convergence : เชื่อมต่อบริการกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน รองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกิจการไฟฟ้า จัดตั้ง Trader Unit และพัฒนา Virtual Utility เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟ้า เสริมสร้างพนักงานให้มีขีดความสามารถหลากหลาย รองรับยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่จะให้บริการประชาชนต่อไปในอนาคต พร้อมทั้งมุ่งสู่การเป็น Green Organization
3. ระยะยาว ปี 2571 - 2580 Sustainable Energy Utility มุ่งสู่การให้บริการในรูปแบบ Co-Creation Service เพื่อให้ลูกค้าสามารถดีไซน์รูปแบบบริการของตนเอง เป็นองค์กรต้นแบบด้านนวัตกรรม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนจากการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการจัดตั้งบริษัทในเครือ และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็น International Cooperation on Energy Business
“MEA มีแผนที่จะดำเนินโครงการในการพัฒนาระบบบริการทั้งหมดให้เป็น Fully Digital Service ภายในปี 2568 และเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายNet Zero Carbon ล่าสุด MEA ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำร่องพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและ Carbon Credit ขยายผลการศึกษาและการพัฒนาไปสู่โครงการอื่นๆ เพิ่มทางเลือกและช่องทางการเข้าถึงบริการด้านพลังงาน เพื่อให้ประชาชนและกลุ่มอุตสาหกรรมได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของประเทศอย่างยั่งยืน”