Circle ชี้ 'สเตเบิลคอยน์' เปลี่ยนโลกการเงินในอนาคต
สเตเบิลคอยน์ได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากเฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แต่สเตเบิลคอยน์ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากราคามีความผันผวนต่ำ จากมีการอ้างอิงราคาตามสินทรัพย์ หรือตรึงราคาดอลลาร์
“เจเรมี อัลแลร์” ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน บริษัท เซอร์เคิล อินเตอร์เน็ต ไฟแนนเชียล ลิมิเต็ท (Circle )เป็นหนึ่งในผู้สร้างเหรียญ USDC ที่ถูกรองรับอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนอีกทั้งหมด 8 เครือข่าย Algorand, Avalanche, Flow, Hedera, Polygon, Solana, Stellar, และ TRON เปิดเผยกับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ว่าสกุลเงินดิจิทัลประเภทสเตเบิลคอยน์ เช่นUSDC ฯลฯ จะเข้ามาแทนที่สิ่งที่เราคิดว่าเป็นบริการทางการเงินในปัจจุบันและถูกยอมรับมากขึ้น
จนนำมาใช้อย่างกว้างขวาง รองรับการทำธุรกรรมทุกประเภท สำหรับแอปพลิเคชันทุกประเภท ตั้งแต่การชำระเงินไปจนถึงบริการทางการเงินต่างๆ และเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยเชื่อมต่อโลกปัจจุบันกับโลกใหม่ อย่างตลาดคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
สกุลเงินสเตเบิลคอยน์เช่น USDC นั้นมูลค่าคงที่เนื่องจากมีการนำมูลค่าไปผูกกับเงินดอลลาร์ ในอัตรา 1 ดอลลาร์ต่อ 1 USDC สามารถใช้งานบนระบบนิเวศน์ของอีเธอเรียมได้อย่างกว้างขวาง USDC มีจุดเด่นที่ความโปร่งใส เพราะเงินดอลลาร์ที่นำมาผูกกับ USDC จะถูกเก็บรักษา และบริหารโดยสถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่าง BlackRock และ BNY Mellon
นอกจากนี้ USDC จะได้รับการตรวจสอบบัญชีโดย Grant Thornton LLPและเปิดเผยรายงานการถือครองออกมาให้นักลงทุนรับทราบทุกเดือนโดยมีมูลค่าตลาดตามดัชนีคอยน์มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับที่ 4 ในตลาด
“สินทรัพย์ดิจิทัล จะกลายเป็นที่เก็บความมั่งคั่ง ผ่านการใช้จ่าย การให้สินเชื่อ และเป็นเงินลงทุน รวมทั้งโครงสร้างของสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีความสามารถ มากกว่าระบบการเงินแบบดั้งเดิมมาก จากความรวดเร็วในการทำธุรกรรม การมีต้นทุนต่ำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีจะเหมือนกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอื่นในอดีตที่ผ่านมา ที่มีการพัฒนาในรูปแบบที่ดีกว่า จนเข้ามาแทนที่ระบบดั้งเดิม”
USDC ยกระดับตลาด CeFi สู่DeFi
USDC เป็นหนึ่งเหรียญที่ใช้อยู่ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ที่สามารถยกระดับสิ่งที่เราเรียกว่า CeFi (Centralized Finance: CeFi) หรือ ระบบการเงินที่มีตัวกลาง สู่โลกของ DeFi (Decentralized Finance) หรือระบบการเงินที่ไม่มีตัวกลางที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนหลัก
ในบางประเทศสเตเบิลคอยน์ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสกุลเงินที่อ่อนแอมาก และผู้คนต้องการใช้เงินดอลลาร์เพื่อใช้จ่ายสิ่งต่างๆ ซึ่งสกุลเงินดิจิทัลใน DeFi เป็นสิ่งที่สามารถขับเคลื่อนการใช้งาน และมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่พยายามผลักดันให้มีการใช้คริปโทฯ รวมทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความน่าสนใจมาก เป็นสิ่งที่เชื่อมต่อทุกสิ่งบนโลกโดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ดังนั้นการนำบล็อกเชนไปใช้ทุกอุตสาหกรรม และทุกธุรกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ฮาร์ดแวร์ ในอุตสาหกรรมนั้นโดยอุตสาหกรรมคริปโทฯ มีกฎระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ จากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อมันเติบโต และมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามามีกฎเกณฑ์ ซึ่งเป็นผลดีที่สามารถสะท้อนว่าเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้คนหันมายอมรับมากขึ้นเพราะเมื่อมีบางสิ่งที่ใหญ่พอที่จะเป็นระบบการเงิน
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะมีกฎหมายในการคุ้มครองผู้ลงทุน เพื่อความปลอดภัย และความมั่นคงของทรัพย์สิน เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และทุจริตในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าระบบนี้สามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้ ทำให้บุคคลหรือองค์กรเริ่มใช้คริปโทฯ ในชีวิตประจำวัน และใช้ทำธุรกรรม จะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้คริปโทฯ เป็นการเงินกระแสหลักในอนาคต
จับมือพันธมิตร กระตุ้นตลาดคริปโทฯ
การร่วมมือกับพันธมิตร ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างความยอมรับในการใช้งานคริปโทฯ และขยายช่องทางในการใช้เหรียญ USDC มากขึ้น ตามผู้ถือเหรียญซึ่งCircle เป็นบริษัทที่มีการร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกทั้งบริษัทรายใหญ่ และรายย่อยในทุกระบบการเงิน และพยายามองหาพันธมิตรที่มีความหลากหลายในหลายๆ อุตสาหกรรม
โดยมองหาบริษัทที่มีความแข็งแรง มีฐานลูกค้านั้นแสดงว่าพวกเขามีความน่าเชื่อถือ มีระบบนิเวศน์ อีโอซิสเต็มที่ครบวงจร รวมทั้งเห็นคุณค่าของเหรียญ USDC เช่น โปรเจกต์ที่สามารถใช้คริปโทฯ ผ่านบัตร Visa และ Mastercard และร่วมมือกับ Stripe ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการชำระเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และมีการร่วมมือกับบริษัทต่างๆ
สำหรับพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน เช่น Coinbase และ FTXแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ซึ่งเป็นการทำงานกับกระดานเทรดระดับโลก รวมทั้งกระเป๋าเงินบนระบบ DeFi มากมาย
บิทคับเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
แต่ในปีนี้เรามีเป้าหมายในการหาพันธมิตร ทางด้านการส่งเสริมการใช้ USDC ดังนั้น บริษัท บิทคับ ออนไลน์ และ บิทคับ แล็บส์ จำกัด จึงเป็นบริษัทแรกๆ ที่เราร่วมงานด้วยในรูปแบบใหม่นี้
สำหรับการจับมือกับ บิทคับถือเป็นการร่วมมือกันของพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อการร่วมมือแบบใหม่ของเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้ USDC ภายใน บิทคับ ประเทศไทย และการใช้ USDC ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่บริษัทมีพันธมิตรในทวีปนี้
บริษัทมองว่า บิทคับ เป็นบริษัทที่น่าสนใจที่สามารถพัฒนาร่วมกันในระยะยาว ถึงการศึกษาตลาดที่น่าสนใจของบิทคับ การเป็นที่ยอมรับในตลาดคริปโทฯ ประเทศไทย มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งที่มีความสนใจในตลาดนี้เป็นอย่างมาก รวมถึงการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มต้น สะท้อนวิสัยทัศน์ของบิทคับอย่างชัดเจน ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันกับบริษัท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์